Search
Close this search box.
RSV

พ่อแม่ต้องระวัง! ไวรัส RSV เชื้ออันตรายทำร้ายเด็กเล็กโดยไม่รู้ตัว

ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรระวังโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่มาจากไวรัสตัวร้าย RSV มักระบาดและมีอาการรุนแรงโดยเฉพาะกับ ‘เด็กเล็ก’ ที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ หากไม่รู้จักอาการของ RSV มาก่อน เราจะไม่เอะใจเลย เพราะว่าอาการคล้ายกับไข้หวัดปกติทั่วไปเลยค่ะ แต่ความจริงแล้ว เชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถก่อให้เกิดอาการอันตรายถึงชีวิตได้เลย ฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกอย่างใกล้ชิด หากมีอาการสัญญาณเตือนว่าเป็น RSV ควรพาพบแพทย์อย่างเร็วที่สุด

ไวรัส RSV คืออะไร

Respiratory Syncytial Virus หรือ RSV เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก มักระบาดช่วงปลายฝนต้นหนาว เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านสารคัดหลั่ง ส่งผลให้เด็ก ๆ มีอาการเหนื่อย หอบ หายใจลำบากได้อย่างรวดเร็ว

เฝ้าระวัง 7 อาการสัญญาณเตือนโรคร้าย RSV

เชื้อ RSV สามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่งต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ละอองจากการไอ จาม และการสัมผัส รวมถึงการอยู่ร่วมกันกับคนเป็นหวัดก็สามารถติดเชื้อได้ แต่จะแสดงอาการหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้นกันของเด็กแต่ละคนด้วย หากได้รับเชื้อแล้วจะมีระยะฟักตัวอยู่ที่ประมาณ 5 วัน

อาการของเด็กที่ติดเชื้อไวรัส RSV จะคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เริ่มจากมีน้ำมูก จาม และไอ คุณพ่อคุณแม่จึงควรหมั่นสังเกตอาการหลังจากนี้หากเริ่มมีมากขึ้นจะส่งผลให้ทางเดินหายใจส่วนล่างมีการอักเสบตามมา ทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ รวมถึงโรคปอดบวม ปอดอักเสบ เด็กบางคนอาจเกิดอาการรุนแรงด้านอื่น เช่น ไข้สูง ไอแรง หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงครืดคราด มีเสมหะในลำคอ

RSV 1

สังเกต 7 อาการสัญญาณเตือนติดเชื้อ RSV

  1. หายใจ เร็ว แรงจนหน้าอกบุ๋ม มีเสียงครืดคราด
  2. หอบ เหนื่อย
  3. ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
  4. ตัวเขียว
  5. มีเสมหะมาก
  6. อาการซึม ไม่ร่าเริง
  7. เบื่ออาหาร กินน้อยลง

การป้องกัน RSV ที่สามารถทำได้ คือ

  1. ดูแลความสะอาด หมั่นล้างมือตัวเองและลูกบ่อย ๆ เพราะการล้างมือ สามารถลดเชื้อที่ติดมากับมือได้ทุกชนิด ถึงร้อยละ 70 เลยทีเดียว
  2. ทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ
  3. เลี่ยงสถานที่ที่คนพลุกพล่าน
  4. ออกกำลังกายในอากาศถ่ายเท ไม่อยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน
  5. หากลูกป่วย ควรแยกออกจากเด็กคนอื่น ๆ ให้หยุดเรียนอย่างน้อย 1- 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้เด็กเล็กด้วยกันที่ยังมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง
  6. พ่อแม่คอยระวังไม่ให้เด็กได้รับการสัมผัสจากคนแปลกหน้า หรือคนรู้จัก เช่น การหอมแก้ม การกอด เป็นต้น
  7. ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย
  8. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
  9. นอกจากนี้ยังควรเช็ก 7 โรคเด็กในหน้าฝน พร้อมวิธีป้องกันที่พ่อแม่ต้องรู้

นอกจากนี้ สำหรับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด มีประวัติโรคปอดเรื้อรัง และโรคหัวใจเรื้อรัง ก็เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต่อ RSV เช่นกัน อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการลูกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีอากาศชื้น เชื้อโรคเติบโตเร็ว จึงทำให้เด็กเล็กป่วยได้ง่ายกว่าปกติ เพราะไวรัส RSV ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และยารักษา ต้องรักษาตามอาการที่เป็นให้ร่างกายแข็งแรงจนสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา

SHARE

RELATED POSTS

สังเกตให้ทันก่อนสาย ลูกน้อยเข้าข่ายเป็นโรคตาขี้เกียจหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเคยได้ยินถึง ‘โรคตาขี้เกียจ’…
พ่อแม่ควรรู้ ปรอทวัดไข้สำหรับเด็กแบบไหนให้ผลลัพธ์แม่นยำสุด อุปกรณ์สำคัญที่พ่อแม่ควรมีติดบ้านเอาไว้อย่าง ปรอทวัดไข้…