รู้ทันเปโด พร้อมปกป้องลูกจากภัยร้ายให้ถูกวิธี | Advertorial
รู้ทันเปโด พร้อมปกป้องลูกจากภัยร้ายให้ถูกวิธี | Advertorial คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงรู้สึกกังวลใจกับปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน แม้ว่าการเกิดอารมณ์ทางเพศจะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราสังเกตเห็นว่าใครเกิดอารมณ์ทางเพศกับเด็กที่ยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์ เราอาจต้องตระหนักว่านี่อาจเป็นสัญญาณของอาการทางจิตที่เรียกว่า โรคใคร่เด็ก หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า เปโด ดังนั้น หน้าที่สำคัญของคุณพ่อคุณแม่คือการดูแลปกป้องลูกน้อยของเราให้ปลอดภัยจากอันตรายของผู้ใหญ่ใคร่เด็ก จากสถิติของมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พบว่าช่วงวัยที่มีการร้องเรียนเรื่องการข่มขืนมากที่สุด คือ เด็กแรกเกิดถึง 20 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่ยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์และวัยเจริญพันธุ์ตอนต้น นอกจากนี้ แนวโน้มของการคุกคามทางเพศยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ้านจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ครอบครัวควรช่วยให้ลูก ๆ รู้เท่าทันภัยอันตรายจากสิ่งที่เรียกว่า เปโด เปโด พฤติกรรมอันตราย อาจไม่ใช่แค่รักเด็ก ข้อมูลจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ให้ความรู้ว่า โรคใคร่เด็ก หรือเปโดฟิเลีย (Pedophilia) ไม่ใช่เรื่องปกติตามธรรมชาติ แต่เป็นอาการผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง ที่จะมีความต้องการทางเพศมุ่งเน้นไปที่เด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์หรือวัยเจริญพันธุ์ช่วงเริ่มต้น ซึ่งมักพบในผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นตอนปลาย สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านควรรู้คือ การแยกแยะให้ได้ว่าอาการเปโดนั้นแตกต่างจากการรักเด็ก ซึ่งมักจะแสดงออกด้วยความเมตตาและเอ็นดู แต่อาการเปโดเป็นความต้องการเพศที่แอบซ่อนอยู่ โดยในช่วงแรกผู้ป่วยโรคใคร่เด็กจะเข้าหาเด็กด้วยความเอ็นดู แต่ต่อมาอาจมีการล่อลวงเพื่อให้เด็กตอบสนองต่อความต้องการทางเพศของตน สังเกตพฤติกรรมอย่างไรเมื่อผู้ใหญ่เป็นเปโด มีแรงดึงดูดและจินตนาการทางเพศกับเด็กที่ยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์ มีความรู้สึกทางเพศกับเด็กที่ยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์ ชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่ยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์ ชอบดูสื่ออนาจารของเด็ก ในกรณีรุนแรงอาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมหรือการทารุณกรรมทางเพศ ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเปโด พฤติกรรมของผู้ป่วยเปโดอาจแตกต่างกันไปเนื่องด้วยปัจจัยต่าง […]
ทำความรู้จัก ‘ท้องหลอก’ และ ‘ท้องลม’ จากความหวังของการมีลูกสู่ภาพลวงตา
ทำความรู้จัก ‘ท้องหลอก’ และ ‘ท้องลม’ จากความหวังของการมีลูกสู่ภาพลวงตา เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตั้งตารอการตั้งครรภ์ สิ่งที่มักจะตามมาก็คือความตื่นเต้นและคาดหวังอย่างซ่อนไว้ไม่ได้ การที่คุณแม่เริ่มมีอาการคล้ายกับการตั้งครรภ์มักทำให้คุณแม่รับเข้ารับการตรวจทันทีเพื่อตรวจสอบความจริง แต่บ่อยครั้งที่ผลตรวจกลับไม่เป็นดังปรารถนา ซึ่งนำไปสู่ความสับสนและกังวลใจ จนอาจทำให้เกิดภาวะ ‘ท้องหลอก’ หรือ ‘ท้องลม’ ที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะสับสนและคิดว่าอาการทั้งสองนั้นคือสิ่งเดียวกัน วันนี้เราจึงจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความรู้จักกันว่า ‘ท้องหลอก’ และ ‘ท้องลม’ คืออะไร เพื่อให้เข้าใจและสามารถรับมือได้อย่างเหมาะสม ท้องหลอก VS ท้องลม ไม่ใช่อาการเดียวกันจริงหรือ? ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่า ท้องหลอก และท้องลมคืออะไร แม้ว่าอาการของทั้งสองภาวะจะมีความคล้ายคลึงกันแต่รู้หรือไม่ว่าสาเหตุสำคัญของอาการท้องหลอกและท้องลมนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความเข้าใจผิดได้ อาการท้องหลอก (Pseudocyesis) อาการท้องหลอก หรือ Pseudocyesis คือ ภาวะที่ผู้ป่วยมักจะแสดงอาการทางกายและจิตใจที่คล้ายคลึงกับการตั้งครรภ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น โดยแพทย์คาดว่าอาการท้องหลอกเกิดจากปัจจัยทางจิตวิทยาและฮอร์โมนของคุณแม่ที่เกิดความเครียด และการคาดหวังอย่างสูงที่จะมีลูก ทำให้ร่างกายตอบสนองผ่านอาการที่คล้ายกับคนท้อง อาการท้องลม (Blighted Ovum) ในทางตรงกันข้าม อาการท้องลม หรือ Blighted Ovum คือภาวะที่ไข่และอสุจิมีการปฏิสนธิกันแล้ว แต่เกิดความผิดปกติจึงทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นทารกได้ จึงสลายไปเหลือเพียงถุงตั้งครรภ์ และเมื่อร่างกายตรวจพบความผิดปกตินี้ ร่างกายจึงทำเริ่มขับเนื้อเยื่อและเลือดออกจากมดลูก ทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด […]
เปิด 6 เส้นทางพาลูกเที่ยว สัมผัสประสบการณ์การนั่งรถไฟ
เปิด 6 เส้นทางพาลูกเที่ยว สัมผัสประสบการณ์การนั่งรถไฟ วันหยุดสัปดาห์นี้ ลองเปลี่ยนบรรยากาศพาเด็ก ๆ และครอบครัวไปเปิดประสบการณ์พาลูกเที่ยวด้วยรถไฟ ที่นอกจากจะได้ใช้เวลาวันหยุดร่วมกันแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูก ๆ ได้เปิดตากับสิ่งใหม่ ๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติริมสองข้างทาง และถึงแม้ว่าจะมีเวลาวันเดียวก็สามารถจัด One-day Trip ได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเวลาน้อยแต่อยากพาเด็ก ๆ ออกไปเที่ยวด้วยกัน จะมีเส้นทางไหนน่าสนใจบ้าง มาดูพร้อมกันเลย 1. พาลูกเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ ศึกษาประวัติศาสตร์ที่ จ.กาญจนบุรี เริ่มต้นเส้นทางที่จะพาลูกเที่ยวใกล้กรุงด้วยรถไฟกันที่ จ.กาญจนบุรี ที่มีครบทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อย่างสะพานข้ามแม่น้ำแคว แล้วไปต่อกันที่เส้นทางรถไฟสายมรณะที่สถานีถ้ำกระแซ เพื่อย้อนรอยเส้นทางประวัติศาสตร์ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และนอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ที่สถานีน้ำตกไทรน้อย ให้เด็ก ๆ ได้เล่นน้ำให้ชื่นใจสักหน่อยก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ ราคาค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 25 บาท เด็ก 13 บาท ต่อเที่ยว 2. พาลูกเที่ยวรับลมทะเลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถ้าหากครอบครัวไหนที่กำลังอยากไปเที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ แต่ไม่อยากขับรถเองให้เมื่อย ลองมาเปลี่ยนประสบการณ์ด้วยการพาลูกเที่ยวทะเลหัวหินกับรถไฟขบวนรถพิเศษนำเที่ยว ที่ใช้เวลาเดินทางเพียง 3-4 ชั่วโมง ก็จะถึงที่สถานีหัวหิน […]
รวม 10 เครื่องสำอางคนท้องห้ามใช้! ตัวไหนอันตรายคุณแม่ต้องระวัง
รวม 10 เครื่องสำอางคนท้องห้ามใช้! ตัวไหนอันตรายคุณแม่ต้องระวัง ในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่หลายท่านเผชิญกับปัญหาสภาพผิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมถึงระบบหัวใจ หลอดเลือด และภูมิคุ้มกัน โดยปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในช่วงตั้งครรภ์ ได้แก่ ฝ้าและรอยดำบนใบหน้าหรือร่างกาย สิวจากการผลิตน้ำมัน (ซีบัม) ที่มากเกินไป ผิวแห้ง รอยแตกลาย และเส้นเลือดขอด การเลือกใช้เครื่องสำอางคนท้องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เหล่าคุณแม่ต้องเลือกสรรอย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและลูกน้อย เนื่องจากสารเคมีบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ จะมีเครื่องสำอางคนท้องตัวไหนบ้างนะที่คุณแม่ไม่ควรใช้ ไปดูกันเลย! สารในเครื่องสำอางคนท้องที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง 1. เครื่องสำอางคนท้องที่มีสารกลุ่มเรตินอยด์ สารในกลุ่มเรตินอยด์หรือกลุ่มวิตามินเอ เช่น Retin-A, Retinol, Retinyl, Tazorac และ Accutane ซึ่งมักพบในเครื่องสำอางสำหรับชะลอวัยและรักษาสิว อาจก่อให้เกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น หากคุณแม่ประสบปัญหาสิวหรือปัญหาผิวอื่น ๆ ในช่วงตั้งครรภ์ ควรเลือกใช้เครื่องสำอางคนท้องที่ปลอดภัยและปราศจากส่วนผสมของสารกลุ่มเรตินอยด์ 2. เครื่องสำอางคนท้องที่มีซาลิไซลิกในปริมาณสูง กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) เป็นส่วนผสมที่มักใช้ในการรักษาสิวเนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณแม่ที่กำลังเลือกเครื่องสำอางคนท้อง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณกรดซาลิไซลิกต่ำ (ไม่เกิน 2%) หรือหลีกเลี่ยงการใช้ เพื่อป้องกันผลกระทบที่ต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ 3. เครื่องสำอางคนท้องที่มีไฮโดรควิโนน […]
รวมเคล็ดลับการให้อาหารมื้อแรกของลูกที่พ่อแม่มือใหม่ควรรู้!
รวมเคล็ดลับการให้อาหารมื้อแรกของลูกที่พ่อแม่มือใหม่ควรรู้! การเริ่มต้นให้อาหารมื้อแรกของลูกน้อยนับเป็นก้าวสำคัญในการช่วยส่งเสริมโภชนาการและพัฒนาการของเจ้าตัวเล็ก พ่อแม่มือใหม่มือใหม่หลายคนอาจเป็นกังวลและมีคำถามมากมายเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมที่และข้อควรคำนึงเพื่อเตรียมอาหารมื้อแรกของลูกอย่างเหมาะสม เราจึงได้รวบรวมทุกข้อควรรู้และเคล็ดลับการเริ่มต้นให้อาหารมื้อแรกของลูกมาฝากเหล่าพ่อแม่มือใหม่กัน อาหารมื้อแรกของลูกนั้นสำคัญอย่างไร? การเริ่มต้นให้ลูกน้อยได้ทานอาหารแข็ง หรือ Solid Food คือการทานอาหารมื้อแรกของลูกที่ไม่ใช่นมแม่ จะช่วยให้ลูกได้รับประโยชน์มากมาย ดังนี้ อาหารมื้อแรกของลูกเป็นตัวช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างครบถ้วน การเริ่มต้นให้อาหารมื้อแรกของลูกส่งเสริมพัฒนาการทางช่องปาก ลิ้น ฟัน และกรามให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการทานอาหารแล้ว ยังส่งเสริมทักษะในการพูดอีกด้วย อาหารมื้อแรกของลูกเป็นการปรับตัวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทานอาหารในวัยที่โตขึ้น อาหารมื้อแรกของลูกควรเริ่มต้นเมื่อไหร่? ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นให้อาหารมื้อแรกของลูก คือช่วงที่ลูกอายุครบ 6 เดือนขึ้นไป โดยในช่วง 6 เดือนแรก ควรให้ลูกทานแต่นมแม่เท่านั้น เนื่องจากร่างกายของทารกยังไม่พร้อมต่อการเคี้ยวอาหาร รวมถึงนมแม่ยังช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับระบบย่อยอาหารของลูกได้ ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตสัญญาณความพร้อมอื่น ๆ ไปควบคู่กัน เช่น สามารถนั่งหรือตั้งลำตัวตรงได้เอง สามารถมองเห็นและหยิบอาหารเองได้ มีพัฒนาการในการหยิบจับสิ่งของ และเริ่มหยิบจับสิ่งของเข้าปาก รู้จักที่จะอ้าปาก เมื่อนำสิ่งของเข้าใกล้ปาก กลืนอาหารได้ โดยไม่คายออก ปรับอาหารมื้อแรกของลูกตามช่วงวัยเริ่มต้นอย่างไรดี? เด็กแต่ละวัยมีความสามารถในการรับอาหารได้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางร่างกายและระบบย่อยอาหาร ดังนั้นการปูพื้นฐานตั้งแต่อาหารมื้อแรกของลูกและปรับเปลี่ยนอาหารให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนไม่ควรมองข้าม ซึ่งสามารถดูตัวอย่างได้ ดังนี้ อาหารเด็ก 6 เดือน ในช่วงวัย 6 […]
รวม 5 เว็บตั้งชื่อลูก ฟีเจอร์ครบ ความหมายดี เสริมมงคล
รวม 5 เว็บตั้งชื่อลูก ฟีเจอร์ครบ ความหมายดี เสริมมงคล ก่อนที่เจ้าตัวน้อยจะออกมาลืมตาดูโลก ขั้นตอนการตั้งชื่อลูกคงเป็นหนึ่งขั้นตอนที่พ่อแม่ทุกคนต่างให้ความสำคัญและคิดอย่างหนักเพื่อหาชื่อที่เหมาะสมที่สุดให้เจ้าตัวเล็ก เพราะเชื่อว่าชื่อที่ดีจะนำพามาซึ่งสิ่งดี ๆ มาสู่ลูกที่เรารัก นอกจากนี้ วิธีการตั้งชื่อลูกก็มีหลากหลายหลักการให้เลือกใช้ เช่น ตั้งชื่อลูกตามเพศ ตั้งชื่อลูกตามวันเกิด ตั้งชื่อลูกตามชื่อของพ่อกับแม่ หรือแม้กระทั่งการตั้งชื่อตามความหมาย ในสมัยก่อนการตั้งชื่อลูกคุณพ่อคุณแม่มักพึ่งพาการปรึกษาผู้ใหญ่ในครอบครัว หรือไปหาพระอาจารย์เพื่อขอคำแนะนำ แต่ในยุคเทคโนโลยีเช่นนี้ การตั้งชื่อเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะหลายเว็บไซต์ได้พัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้พ่อแม่สามารถค้นหาและเลือกชื่อที่เหมาะสำหรับลูกน้อยได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นชื่อที่มีความหมายดี ชื่อที่เป็นมงคล หรือชื่อที่เป็นที่นิยม เพื่อให้การตั้งชื่อลูกเป็นเรื่องง่ายและสนุกยิ่งขึ้น เราจึงได้รวบรวม 5 เว็บตั้งชื่อลูกที่น่าสนให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกใช้กัน จะมีเว็บอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย! 1. เว็บตั้งชื่อลูก theAsianparent เริ่มต้นเว็บไซต์ตั้งชื่อลูกแรกกันที่ theAsianparent แพลตฟอร์มออนไลน์ที่โด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และวางแผนการตั้งชื่อให้ลูกน้อย โดยจุดเด่นของเว็บไซต์นี้คือการใช้งานที่แสนสะดวกและง่ายดาย คุณพ่อคุณแม่สามารถระบุรายละเอียดต่าง ๆ เช่น เพศ ความหมาย และตัวอักษรแรกของชื่อได้ เพื่อให้ได้ชื่อที่ตรงตามความต้องการ อีกทั้งยังมีฐานข้อมูลชื่อกว่าพันรายชื่อให้ทำให้การค้นหาชื่อที่ตรงใจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 2. เว็บตั้งชื่อลูก MYHORA MYHORA เว็บดูดวงที่ไม่ได้มีแค่บริการดูดวงทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีฟีเจอร์เว็บตั้งชื่อลูกที่พ่อแม่สายมูไม่ควรพลาด สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากตั้งชื่อลูกน้อยให้เป็นไปตามหลักโหราศาสตร์เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับลูก […]
มีลูกยาก ไปขอลูกที่ไหนดี? รวมพิกัดให้แล้ว ขอแบบนี้สมหวังชัวร์
มีลูกยาก ไปขอลูกที่ไหนดี? รวมพิกัดให้แล้ว ขอแบบนี้สมหวังชัวร์ ขอลูกที่ไหนดี? พ่อแม่สายมูคนไหนที่อยากมีลูก แต่ทดลองมาสารพัดวิธีแล้วทั้งวิธีตามธรรมชาติ พึ่งวิทยาศาสตร์ ก็ยังไม่มีลูกสมใจอยากสักที ตาม Cotton Baby ไปมูกันดีกว่า! ที่พึ่งพาทางใจกับ 9 สถานที่ขอลูก การันตีจากเหล่าบรรดาพ่อแม่ที่ไปแล้วสมหวังจนบอกต่ออย่างกว้างขวางว่าขอลูกที่ไหนเด่น ขอลูกที่ไหนดี พร้อมเผยวิธีการขอลูกแบบถูกใจองค์เทพ รับรองว่าคำอธิษฐานเป็นจริงอย่างแน่นอน จะมีที่ไหนกันบ้างไปดูเลย! 1. พิกัดขอลูกที่ไหนดี : ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า กรุงเทพมหานครฯ สถานที่แรกที่แนะนำให้กับพ่อแม่สายมูว่าจะไปขอลูกที่ไหนดี ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเสือ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเชื่อว่าหากได้ขอพรกับเทพองค์ประธานอย่าง เจ้าพ่อเสือ หรือ ตั่วเหล่าเอี๊ย จะช่วยเสริมสิริมงคล ปัดเป่าอุปสรรค รวมถึงขอลูกก็สมหวังได้เช่นกัน โดยจะมีวันขอลูกโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น นั่นคือวันหงวนเซียว ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจีน นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า…ในแต่ละปีเจ้าพ่อเสือจะมีการจำกัดจำนวนเด็กที่จะลงมาเกิดอีกด้วย ดังนั้น ถ้ามาขอแล้วยังไม่สำเร็จในปีนี้อาจจะต้องรอกลับมาขออีกทีในปีถัดไปนะคะ ของสักการะ ธูป 18 ดอก […]
‘ฟันน้ำนม’ สำคัญกว่าที่คิด ชวนพ่อแม่มาดูแลฟันลูกน้อยตั้งแต่ซี่แรก
‘ฟันน้ำนม’ สำคัญกว่าที่คิด ชวนพ่อแม่มาดูแลฟันลูกน้อยตั้งแต่ซี่แรก หนึ่งในพัฒนาการสำคัญของลูกน้อยวัยทารกนั่นก็คือ ‘การขึ้นของฟันน้ำนม’ ทำให้การกินอาหารของลูกน้อยเริ่มที่จะหลากหลายมากขึ้น ซึ่งการดูแลฟันน้ำนมนั้นสำคัญไม่แพ้กับฟันแท้เลยนะคะ คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่คิดว่าเดี๋ยวฟันน้ำนมก็หลุดไปตามธรรมชาติแล้ว รอดูแลชุดใหญ่ตอนฟันแท้ขึ้นทีเดียวคงไม่เป็นไร Cotton Baby ขอบอกเลยว่า…ถึงวันนั้นอาจสายเกินแก้ได้ค่ะ จะดีกว่าไหม? ถ้าเราเริ่มต้นดูแลสุขภาพฟันของลูกน้อยให้แข็งแรงตั้งแต่ฟันน้ำนม เพราะฟันที่แข็งแรงจะส่งผลต่อพัฒนาการในทุก ๆ ด้านของลูก ทำความรู้จัก ฟันน้ำนม คืออะไร ‘ฟันน้ำนม’ คือ ฟันชุดแรกที่จะเริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุเฉลี่ยประมาณ 6 เดือน หรืออาจจะ 3-4 เดือนในเด็กที่ฟันขึ้นเร็ว และค่อย ๆ ขึ้นจนครบ ถึงอายุประมาณ 3 ขวบ จากนั้นฟันน้ำนมจะเริ่มหลุดเพื่อให้ฟันแท้ที่อยู่ใต้กระดูกขากรรไกรขึ้นมาแทนที่ ในช่วงอายุ 6-7 ปี ไปจนถึง 12 ปี ซึ่งฟันน้ำนมมีทั้งหมด 20 ซี่ ประกอบด้วย ฟันบน ฟันหน้าซี่กลาง (Central incisors) จำนวน 2 ซี่ ขึ้น : 8-12 […]
5 ข้อ Do & Don’t โพสต์รูปลูกลงโซเชียลยังไง ไม่ให้ละเมิดสิทธิเด็ก
5 ข้อ Do & Don’t โพสต์รูปลูกลงโซเชียลยังไง ไม่ให้ละเมิดสิทธิเด็ก เมื่อเจ้าตัวน้อยอยู่ในวัยน่ารัก พ่อแม่ก็อยากจะแชร์โมเมนต์ที่ประทับใจให้โลกโซเชียลได้ชื่นชม จนนำไปสู่การละเมิดสิทธิเด็กโดยไม่รู้ตัว ซึ่งรูปภาพเหล่านั้นจะกลายเป็น Digital Footprint บนโลกออนไลน์ การโพสต์รูปลูกลงโซเชียลจึงไม่ใช่แค่การ ‘แชร์’ แต่เป็นการติดตราประทับ ปั๊มรอยเท้าดิจิทัลที่อาจส่งผลร้ายในอนาคต ก่อนโพสต์จึงควรหยุดคิดและพินิจถึง Do & Don’t ที่ Cotton Baby รวบรวมมาให้ จะได้ไม่กลายเป็น ‘Sharenting’ พ่อแม่ที่แชร์เรื่องราวของลูกจนเกินงามค่ะ เลี้ยงลูกแบบ Sharenting เสี่ยงละเมิดสิทธิเด็ก ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต พฤติกรรมอวดลูกออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในสังคม พจนานุกรม คอลลินส์ (Collins Dictionary) จึงบัญญัติการกระทำนี้ว่า ‘Sharenting’ ซึ่งมาจากการรวมคำของ ‘Share (แบ่งปัน) + Parenting (การเลี้ยงลูก)’ แปลให้เข้าใจได้ว่า ‘พ่อแม่ที่แชร์เรื่องราวของลูกบนโซเชียลมากเกินไป’ จนนำไปสู่ข้อถกเถียงเกี่ยวกับสิทธิเด็ก โดยเฉพาะวัยที่ยังไม่สามารถให้ความยินยอมได้ว่า “การโพสต์รูปลูกแบบนี้เหมาะสมหรือไม่?” แค่โพสต์รูปถ่าย อันตรายตรงไหน? ช่วงเวลาที่ลูกน้อยกำลังพูดเจื้อยแจ้วมันช่างผ่านไปไว พ่อแม่อย่างเราก็อยากจะเก็บความน่ารักนี้ไว้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย […]
ชวนพ่อแม่ดูแลโภชนาการเด็กให้ดีสมวัย เลี่ยงภัยอ้วน-เบาหวาน | Advertorial
ชวนพ่อแม่ดูแลโภชนาการเด็กให้ดีสมวัย เลี่ยงภัยอ้วน-เบาหวาน | Advertorial โภชนาการเด็กเป็นรากฐานสำคัญในการก้าวเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีในอนาคต โดยเฉพาะในวัยเรียนที่พ่อแม่มักจะเริ่มให้ความสำคัญกับอาหารการกินของลูกลดน้อยลง และเด็กสามารถเลือกทานอาหารด้วยตัวเองได้ จึงทำให้บางครั้งเด็กได้รับสารอาหารที่ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ จนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย นอกจากนี้ จากรายงานของกรมสุขภาพ ในปี พ.ศ. 2563 ยังเผยว่า เด็กไทยส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการเลือกซื้ออาหารตามความชอบถึง 27.7% ในขณะที่มีเด็กคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการเพียง 8.1% ดังนั้น หน้าที่สำคัญของพ่อแม่คือการช่วยดูแลโภชนาการเด็กให้ลูกหลานได้รับสารอาหารที่เหมาะสมตามช่วงวัย เพื่อเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่จะเกิดจากพฤติกรรมการกิน ดูแลโภชนาการเด็กอย่างไรให้เหมาะสมกับวัย การดูแลโภชนาการเด็กไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายของเด็กเติบโตได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังมีผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาการอีกด้วย โดยสารอาหารที่เด็กทุกช่วงวัยควรได้รับ มีดังนี้ โปรตีน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ และฮอร์โมนของเด็ก พร้อมทั้งช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ คาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และมีการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล เพื่อให้สมองดึงกลูโคสมากระตุ้นการทำงานของร่างกาย ช่วยปรับอารมณ์ของเด็กอีกด้วย ผักและผลไม้ เป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของเด็กทำงานได้ปกติ และเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อโรค ไขมัน เป็นแหล่งพลังงานที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย กระตุ้นการทำงานของสมอง และช่วยละลายวิตามินบางชนิดเพื่อดูดซึมสู่ร่างกาย แคลเซียม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟันของเด็ก ธาตุเหล็ก ช่วยให้เม็ดเลือดทำงานได้อย่างสมดุล สังกะสี […]