Search
Close this search box.
ท้องหลอก ท้องลม

ทำความรู้จัก ‘ท้องหลอก’ และ ‘ท้องลม’ จากความหวังของการมีลูกสู่ภาพลวงตา

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตั้งตารอการตั้งครรภ์ สิ่งที่มักจะตามมาก็คือความตื่นเต้นและคาดหวังอย่างซ่อนไว้ไม่ได้ การที่คุณแม่เริ่มมีอาการคล้ายกับการตั้งครรภ์มักทำให้คุณแม่รับเข้ารับการตรวจทันทีเพื่อตรวจสอบความจริง แต่บ่อยครั้งที่ผลตรวจกลับไม่เป็นดังปรารถนา ซึ่งนำไปสู่ความสับสนและกังวลใจ จนอาจทำให้เกิดภาวะ ‘ท้องหลอก’ หรือ ‘ท้องลม’ ที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะสับสนและคิดว่าอาการทั้งสองนั้นคือสิ่งเดียวกัน วันนี้เราจึงจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความรู้จักกันว่า ‘ท้องหลอก’ และ ‘ท้องลม’ คืออะไร เพื่อให้เข้าใจและสามารถรับมือได้อย่างเหมาะสม

ท้องหลอก VS ท้องลม ไม่ใช่อาการเดียวกันจริงหรือ?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าว่า ท้องหลอก และท้องลมคืออะไร แม้ว่าอาการของทั้งสองภาวะจะมีความคล้ายคลึงกันแต่รู้หรือไม่ว่าสาเหตุสำคัญของอาการท้องหลอกและท้องลมนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความเข้าใจผิดได้

อาการท้องหลอก (Pseudocyesis)

อาการท้องหลอก หรือ Pseudocyesis คือ ภาวะที่ผู้ป่วยมักจะแสดงอาการทางกายและจิตใจที่คล้ายคลึงกับการตั้งครรภ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น โดยแพทย์คาดว่าอาการท้องหลอกเกิดจากปัจจัยทางจิตวิทยาและฮอร์โมนของคุณแม่ที่เกิดความเครียด และการคาดหวังอย่างสูงที่จะมีลูก ทำให้ร่างกายตอบสนองผ่านอาการที่คล้ายกับคนท้อง

อาการท้องลม (Blighted Ovum)

ในทางตรงกันข้าม อาการท้องลม หรือ Blighted Ovum คือภาวะที่ไข่และอสุจิมีการปฏิสนธิกันแล้ว แต่เกิดความผิดปกติจึงทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นทารกได้ จึงสลายไปเหลือเพียงถุงตั้งครรภ์ และเมื่อร่างกายตรวจพบความผิดปกตินี้ ร่างกายจึงทำเริ่มขับเนื้อเยื่อและเลือดออกจากมดลูก ทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคุณแม่ได้ผลเป็นบวกเมื่อตรวจด้วยชุดตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะ แต่เมื่อไปอัลตราซาวนด์กลับไม่พบทารกในครรภ์

อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยภาวะท้องหลอกและท้องลม ได้แก่

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • คัดตึงเต้านม
  • ท้องโตขึ้น
  • รู้สึกเหมือนมีลูกดิ้นในท้อง

วิธีการรักษาท้องหลอกและท้องลม

การรักษา ท้องหลอก ท้องลม

การรักษาภาวะท้องหลอก

ขั้นตอนแรกในการรักษาภาวะท้องหลอก คือการทำให้คุณแม่ยอมรับและเชื่อว่าตอนเองไม่ได้ตั้งครรภ์จริง โดยการใช้หลักฐานจากการตรวจทางการแพทย์ เช่น การตรวจปัสสาวะ การตรวจเลือด การตรวจอุ้งเชิงกราน และการอัลตราซาวนด์ เพื่อยืนยัน จากนั้นทำการรักษาสภาพจิตใจด้วยกิจกรรมบำบัด การปรับพฤติกรรม หรือการรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจของคุณแม่ให้กลับสู่สภาวะปกติ นอกจากนี้ อาจมีการรักษาด้วยวิธีฮอร์โมนบำบัดควบคู่เพื่อบรรเทาอาการคล้ายการตั้งครรภ์

การรักษาภาวะท้องลม

การรักษาภาวะท้องลมสามารถทำได้ด้วยการขูดมดลูกเพื่อนำเยื่อบุหรือชิ้นเนื้อภายในโพรงมดลูกออกมา เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่ในบางกรณีที่ถุงตั้งครรภ์สามารถหลุดออกมาได้เองทั้งหมด และไม่มีอาการแทรกซ้อน จึงไม่จำเป็นต้องทำการขูดมดลูก อย่างไรก็ตาม อาการท้องลมยังสามารถเกิดซ้ำได้ โดยเฉพาะกับคุณแม่ที่อายุมาก ดังนั้น การตรวจสุขภาพเป็นประจำ การทานอาหารที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันคุณแม่จากอาการท้องลมได้

จะเห็นได้ว่าแนวทางการรักษาอาการท้องหลอกและท้องลมนั้นแตกต่างกันออกไป เนื่องจากสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ทุกคนที่ตั้งตารอเจ้าตัวน้อยนั่นก็คือ การดูแลสุขภาพกายและใจให้พร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่สู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย

SHARE

RELATED POSTS

พื้นที่ส่วนตัวในครอบครัว เส้นทางสู่ความเข้าใจ หลีกเลี่ยงความห่างเหิน พ่อแม่หลายคนอาจรู้สึกกังวลว่าการให้พื้นที่ส่วนตัวกับลูกจะทำให้เกิดความห่างเหินระหว่างกัน…
รวมสวนปั่นจักรยาน สอนลูกรู้จักปั่น สุขสันต์ทั้งครอบครัว การปั่นจักรยานไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและช่วยให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข…
ช่วยลูกปรับตัว พร้อมรับมืออย่างมั่นคงในวันที่พ่อแม่แยกทาง การเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างมั่นคงและมีความสุขนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่ทุกคน แต่เมื่อการที่พ่อแม่แยกทางกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้…