เทคนิคระบายสีการ์ตูนที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็กทั้ง 7 ด้าน
เทคนิคระบายสีการ์ตูนที่ช่วยเสริมสร้าง พัฒนาการเด็กทั้ง 7 ด้าน วาดภาพ ระบายสีการ์ตูน เป็นกิจกรรมที่เด็ก ๆ มักจะชื่นชอบกันอยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่ากิจกรรมนี้มีประโยชน์ และช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็กได้หลายด้านเลยทีเดียว Cotton Baby เลยจะมาบอกทริคดี ๆ ที่จะช่วยให้กิจกรรมวาดภาพ ระบายสีการ์ตูนนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคนิคระบายสีการ์ตูนที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองอีกด้วย มาค่ะเราไปดูพร้อมกันเลย วาดภาพ ระบายสีการ์ตูน มีประโยชน์ต่อลูกอย่างไร ? พัฒนาการด้านร่างกาย การวาดภาพ ระบายสีการ์ตูน จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อในส่วนของการควบคุม เวลาที่เด็กใช้แปรง หรืออุปกรณ์ระบายสีขนาดเล็กจะช่วยพัฒนาทักษะของการควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็ก ในขณะที่วาดภาพระบายสีในกระดาษแผ่นใหญ่ หรือใช้ขาตั้งจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ หรือทักษะ Gross Motor ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อบริเวณลำตัว แขน ขา รวมไปถึงความสัมพันธ์กันของอวัยวะส่วนต่าง ๆ กล้ามเนื้อส่วนนี้ช่วยให้เด็ก ๆ รู้จักการทรงตัว มีความแข็งแรง และความทะมัดทะแมง นอกจากนี้เมื่อเด็ก ๆ ได้ระบายสีการ์ตูนก็จะช่วยพัฒนาการในด้านประสานสายตาของเด็กอีกด้วย พัฒนาการด้านสมอง กิจกรรมวาดภาพ ระบายสีการ์ตูน ช่วยฝึกสมองของเด็ก ๆ ให้ได้ใช้งานสมองในส่วนต่าง ๆ มากขึ้น […]
รู้จักการทำ ICSI (อิ๊กซี่) เทคนิคพิเศษสำหรับคู่รักที่มีลูกยาก
รู้จักการทำ ICSI (อิ๊กซี่) เทคนิคพิเศษสำหรับคู่รักที่มีลูกยาก ปัจจุบันเทคโนโลยีการทำ ICSI (อิ๊กซี่) ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่เข้าข่ายภาวะมีลูกยาก วันนี้ Cotton Baby เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับการทำ ICSI ว่าคืออะไร แตกต่างกับการทำ IVF เด็กหลอดแก้ว อย่างไร และสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้ก่อนทำ ICSI ค่ะ รู้จักการทำ ICSI (อิ๊กซี่) คือ ICSI : Intracytoplasmic Sperm Injection (อิ๊กซี่) คือ วิธีการปฏิสนธินอกร่างกาย โดยจะคัดเชื้อสเปิร์มตัวที่สมบูรณ์แข็งแรงมากที่สุดผ่านการส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์จำนวนเพียง 1 ตัว เพื่อฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่ 1 ใบให้ผสมกัน โดยนำไปเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ เมื่อเจริญเป็นตัวอ่อนและอยู่ในระยะที่เหมาะสมแล้วจะถูกนำกลับเข้าไปไว้ในโพรงมดลูก เพื่อให้มีการตั้งครรภ์ในฝ่ายหญิงต่อไป การทำ ICSI เหมาะกับใครบ้าง? เมื่อมีอายุ 35 ปี ขึ้นไป หรือเข้าข่ายภาวะมีลูกยาก มีแนวโน้มสูงที่ลูกจะมีความผิดปกติทางพันธุกรรม ผู้ที่ทำการแช่แข็งไข่ (Frozen eggs) หรือฝากสเปิร์มเอาไว้ […]
รวมชื่อภาษาจีน ความหมายดี พร้อมหลักการตั้งชื่อลูกสาว ลูกชาย
รวมชื่อภาษาจีน ความหมายดี พร้อมหลักการตั้งชื่อลูกสาว ลูกชาย ถ้าพูดถึงการตั้งชื่อลูกแล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ได้นิยมเพียงแค่ชื่อภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษแล้วนะคะ แต่ยังรวมไปถึงชื่อภาษาจีนด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากตั้งชื่อลูกภาษาจีนจะต้องรู้หลักการอะไรบ้าง พร้อมรวมลิสต์ชื่อภาษาจีน ความหมายดี ใช้ตั้งชื่อได้ทั้งลูกสาว ลูกชาย เลยล่ะค่ะ หลักการตั้งชื่อภาษาจีน ชื่อภาษาจีนจะขึ้นต้นด้วยสกุล (แซ่) และตามด้วยชื่อ โดยจะมีเพียง 1-2 พยางค์ แต่ถ้าไม่มีแซ่ สามารถตั้งแต่ชื่อเฉย ๆ ได้ และควรตั้งแค่ 2 พยางค์ เพราะหากตั้ง 3 พยางค์ คำแรกจะกลายเป็นแซ่ การตั้งชื่อภาษาจีนไม่จำเป็นที่คำ 2 คำนั้นจะต้องรวมความหมายกันได้ เพราะโดยปกติแล้วการตั้งชื่อของคนจีนจะเลือกคำที่มีความหมายดีมารวมกัน 2 คำ แปลแยกกันแต่ละคำ เน้นที่ชื่อเพราะ หรืออ่านแล้วเข้ากับแซ่มากกว่า เช่น เลือกคำว่า ‘เฉลียวฉลาด’ กับ ‘ท้องฟ้า’ มาตั้งด้วยกัน ซึ่งคำ 2 คำนี้ไม่สามารถรวมความหมายกันได้ นั่นเองค่ะ การตั้งชื่อเล่นภาษาจีน จะเป็นการเบิ้ลคำ เช่น ซินซิน […]
ฝากสเปิร์ม ทางเลือกสำหรับพ่อแม่มีลูกยาก หรือวางแผนมีลูกในอนาคต
ฝากสเปิร์ม ทางเลือกสำหรับพ่อแม่มีลูกยาก หรือวางแผนมีลูกในอนาคต ฝากสเปิร์มเป็นการเตรียมพร้อมก่อนเกิดปัญหา มีลูกยาก ที่อาจสร้างความกังวลให้กับทั้งคู่สามีภรรยา และคนที่แต่งงานช้า ซึ่งการคิดที่จะมีลูกตอนอายุมาก อาจทำให้มีลูกยากขึ้นด้วยปัจจัยด้านร่างกายหลายประการ แต่ในปัจจุบันการฝากสเปิร์มไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะคุณผู้ชายหลายคนก็หันมาให้ความสนใจเรื่องนี้กันมากขึ้น วันนี้ Cotton Baby จะพาไปรู้จักการฝากสเปิร์มกันว่าไม่น่ากลัว และทำง่ายมาก ๆ เลยค่ะ ฝากสเปิร์ม คืออะไร? ฝากสเปิร์ม เป็นวิธีการฝากเก็บน้ำอสุจิที่แพทย์จะคัดสเปิร์มตัวที่แข็งแรงสมบูรณ์ แล้วมาฝากไว้ในสถานพยาบาลมีบริการแช่แข็งในถังไนโตรเจนเหลว เพื่อรอนำออกมาผสมกับไข่ของผู้หญิง หรือเมื่อพร้อมที่จะมีลูกในอนาคต โดยการนำสเปิร์มออกมาใช้จะต้องใช้ร่วมกับการผสมเทียม อย่างการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) และการทำอิ๊กซี่ (ICSI) ถึงจะประสบผลสำเร็จในการมีลูก การฝากสเปิร์มเหมาะกับใคร? คู่รักที่เข้าข่ายภาวะมีบุตรยาก คู่รักที่แต่งงานช้า ฝ่ายชายมีโรคประจำตัว เช่น โรคมะเร็ง ที่ต้องรักษาด้วยการให้เคมีบำบัด หรือการฉายแสงที่ไปทำลายจำนวนสเปิร์ม หรือโรคเกี่ยวกับสุขภาพจิต ผู้ที่ต้องการวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะมีลูกในอนาคต ผู้ที่ต้องการเก็บสเปิร์มเอาไว้เพื่อบริจาคแก่ผู้มีบุตรยากรายอื่น เตรียมความพร้อมอย่างไรก่อนฝากสเปิร์ม? 1. คุณผู้ชายจะต้องงดหลั่งอสุจิ ก่อนมาเก็บสเปิร์มประมาณ 2 – 3 วัน ไม่ควรเกิน 7 วัน 2. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ […]
พ่อแม่มือใหม่ต้องรู้ “การแจ้งเกิดลูก” ต้องทำอะไรบ้าง
พ่อแม่มือใหม่ต้องรู้ “การแจ้งเกิดลูก” ต้องทำอะไรบ้าง หลังจากคลอดลูกแล้ว สิ่งสำคัญต่อไปที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องทำก็คือ การแจ้งเกิดลูก แม้ว่าปัจจุบันนี้หลายโรงพยาบาลจะมีบริการแจ้งเกิดให้ก็ตาม แต่บางครั้งเราอาจไม่สะดวก หรืออาจไม่ได้คลอดที่โรงพยาบาล เราจึงต้องดำเนินการแจ้งเกิดลูกด้วยตัวเองค่ะ วันนี้ Cotton Baby จึงได้รวบรวมข้อมูลมาบอกว่าจะต้องเตรียมเอกสารในแต่ละกรณีอย่างไรบ้าง พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ 1. แจ้งเกิดลูก กรณีเกิดที่โรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือสถานีอนามัย พ่อแม่ต้องทำเรื่องแจ้งเกิดให้เบบี๋ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกเกิด โดยใช้เอกสารดังนี้ เอกสารที่ต้องใช้ในการแจ้งเกิดลูก หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.๑/๑) ที่ออกโดยสถานพยาบาล บัตรประจำตัวประชาชนของคุณพ่อและคุณแม่ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่มาแจ้งเกิด หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจมาดำเนินเรื่องแทน สำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อเพิ่มชื่อของลูกเข้าไป สถานที่แจ้งเกิดลูก ถ้าสถานที่ที่เด็กเกิดตั้งอยู่ในเขตเทศบาล สามารถแจ้งเกิดได้ที่สำนักงานเขตในพื้นที่ที่เด็กเกิด ถ้าสถานที่ที่เด็กเกิดตั้งอยู่นอกเขต สามารถแจ้งเกิดได้ที่สำนักทะเบียน ที่ว่าการอำเภอ ที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่นั้น 2. แจ้งเกิดลูก กรณีเกิดที่บ้าน หากลูกของเราเกิดที่บ้าน ต้องแจ้งเกิดภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกเกิด โดยใช้เอกสาร ดังนี้ เอกสารที่ต้องใช้ในการแจ้งเกิดลูก ใบรับแจ้งการเกิด (ท.ร ๑ […]
ลูกแค่ซนหรือโรคสมาธิสั้น 3 วิธีสังเกตพร้อมทริคดูแลที่เหมาะสม
ลูกแค่ซนหรือโรคสมาธิสั้น 3 วิธีสังเกตพร้อมทริคดูแลที่เหมาะสม โรคสมาธิสั้น (Attention deficit hyperactivity disorder : ADHD) มักมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมที่ “ลูกซน” มากเกินไป อยู่ไม่นิ่ง ไม่ค่อยมีสมาธิ หุนหันพลันแล่น จนกระทบต่อการเรียนและความสัมพันธ์ ฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ความซนจะเป็นของคู่กับเด็ก เรามาเช็กลิสต์กันหน่อยว่า ลูกซนแค่ไหนถึงเข้าข่ายเป็นโรคสมาธิสั้น โรคสมาธิสั้น คืออะไร? โรคสมาธิสั้น เกิดจากสมองส่วนหน้าทำงานได้น้อยกว่าเด็กปกติ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมสมาธิจดจ่อ จัดลำดับขั้นตอน การยับยั้งชั่งใจ และการเคลื่อนไหวของร่างกาย สาเหตุที่สมองส่วนหน้าทำงานได้น้อย เพราะสารสื่อประสาทอย่าง Dopamine และ Norepinephrine หลั่งออกมาน้อย ทำให้เกิดความไม่สมดุล มีปัจจัยมาจากทั้งทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดูหรือความกดดันจากพ่อแม่อย่างที่หลายคนเข้าใจนะคะ เช็กลิสต์ ลูกซนแค่ไหน เข้าข่ายโรคสมาธิสั้น โดยปกติแล้วโรคสมาธิสั้นประกอบด้วย 3 พฤติกรรมคือ ซนมาก ไม่มีสมาธิ และหุนหันพลันแล่น อาจมีอาการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมีครบทุกอาการก็ได้ จะต้องแสดงอาการก่อนเด็กอายุ 12 ปี ซึ่งมักพบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุ 3 – […]
พ่อแม่ต้องรู้ วิธีดูแลอาการโคลิก (Colic) ที่มักพบในเด็กแรกเกิด
พ่อแม่ต้องรู้ วิธีดูแลอาการโคลิก (Colic) ที่มักพบในเด็กแรกเกิด เสียงร้องงอแงเป็นสิ่งแรกที่ลูกสามารถโต้ตอบกับพ่อแม่ได้ แต่ถ้าร้องมากเกินไปจนผิดสังเกต นั่นอาจแสดงถึงอาการโคลิกได้ พ่อแม่จึงควรมาทำความรู้จักอาการโคลิกว่าคืออะไร และร้องแบบไหนที่เรียกว่าโคลิก พร้อมวิธีดูแลลูกเมื่อมีอาการโคลิก เพื่อสุขภาพที่ดีของลูก อาการโคลิก คืออะไร? อาการโคลิก (Colic) เป็นอาการที่มักพบได้ในเด็กแรกเกิด ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ จนถึง 3 เดือน โดยมีอาการที่ร้องไห้หนักมาก ร้องไห้เป็นเวลานานแบบไม่ทราบสาเหตุ และชอบร้องในช่วงกลางคืนเป็นพิเศษ ทำให้พ่อแม่กังวลว่าลูกจะป่วยเป็นอะไรร้ายแรงหรือเปล่า ซึ่งอาการโคลิกของเด็ก ถือเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทารกทุกคน อาการจะดีขึ้นเมื่ออายุเข้าช่วงประมาณ 3-4 เดือนค่ะ สาเหตุของอาการโคลิก ปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเขนว่าอาการโคลิกของเด็กนั้นเกิดจากอะไร อาจมาจากหลาย ๆ สาเหตุรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น พื้นฐานอารมณ์ของเด็ก หากคุณแม่มีความเครียดขณะตั้งครรภ์ก็ส่งผลให้ลูกมีอาการโคลิกได้ การพัฒนาของระบบประสาทที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ฮอร์โมนในร่างกายปรับเปลี่ยน จึงทำให้มีอาการปวดท้อง ระบบทางเดินอาหาร มีลม หรือแก๊สในท้องมาก ป้อนนมผิดวิธี หรือป้อนมาก-น้อยเกินไป อยู่ในท่านอนที่ไม่เหมาะสม เด็กไม่เรอจึงมึอากาศในท้อง ทำให้เกิดอาการแน่น อึดอัดท้อง ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น กรดไหลย้อน, […]
แม่ท้องต้องรู้ NIFTY TEST การตรวจหาความผิดปกติของเบบี๋ในครรภ์
แม่ท้องต้องรู้ NIFTY TEST การตรวจหาความผิดปกติของเบบี๋ในครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุ 35 ปี ขึ้นไป มักมีโอกาสเสี่ยงต่อความผิดปกติของลูกในครรภ์มากขึ้น การตรวจ NIFTY TEST จึงเป็นวิธีตรวจกรองเพื่อหาความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ของคุณแม่ที่ได้รับความนิยมและได้ประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน Cotton Baby จะพามาทำความรู้จักการตรวจ NIFTY TEST กันว่าคืออะไร แล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนจำเป็นต้องตรวจ NIFTY TEST หรือไม่ ไปดูกันเลยค่ะ รู้จัก NIFTY TEST คืออะไร? NIFTY TEST (NIFTY: Non-Invasive Fetal Trisomy test) การตรวจนิฟตี้ คือ วิธีการตรวจเพื่อค้นหาลักษณะความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ของคุณแม่ โดยไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำ ซึ่งการเจาะน้ำคร่ำเป็นวิธีเดิมในสมัยก่อนที่ใช้ตรวจก่อนจะเป็น NIFTY TEST ค่ะ การตรวจ NIFTY TEST เป็นการเจาะเลือดของคุณแม่เพียง 10 มิลลิลิตร ในอายุครรภ์ตั้งแต่ 10 – 24 สัปดาห์ มาประเมินโอกาสเสี่ยงที่ทารกในครรภ์จะมีโครโมโซมผิดปกติ […]
จริงหรือไม่? ไขข้อสงสัยที่โบราณว่าไว้ ลูกติดมือเพราะอุ้มบ่อย
จริงหรือไม่? ไขข้อสงสัยที่โบราณว่าไว้ ลูกติดมือเพราะอุ้มบ่อย หลากหลายคำพูดของผู้ใหญ่ในครอบครัวที่ชอบเตือนว่า “อุ้มลูกบ่อย ๆ เดี๋ยวลูกติดมือเอาหรอก” หรือ “อุ้มบ่อย เด็กจะติดมือ ชอบร้องให้อุ้ม” คุณแม่มือใหม่ได้ยินแบบนี้คงเป็นกังวล ถ้าปล่อยลูกร้องงอแงไว้จะดีกว่าจริงหรือ? วันนี้ Cotton Baby มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ ไปดูพร้อมกันเลย จริงหรือไม่? อุ้มบ่อยทำให้ลูกติดมือ คำตอบคือไม่จริงค่ะ จากผลวิจัยบอกว่าการอุ้มลูกช่วง 6 เดือนแรก เป็นการปลอบโยน มอบความรักและความอบอุ่นให้ลูกรู้สึกว่ามีคนคอยดูแลอยู่เคียงข้างเสมอ โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรก การอุ้มลูกบ่อย ๆ เป็นการสร้างความผูกพันระหว่างคุณแม่กับลูกด้วย เวลาที่เข้าไปอุ้มตอนลูกร้องไห้จะช่วยในเรื่องการพัฒนาด้านอารมณ์ เป็นเด็กเลี้ยงง่าย เมื่อโตขึ้นการร้องไห้ก็จะค่อย ๆ ลดลง และไม่ทำให้ลูกร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจด้วยนะคะ ซึ่งการร้องไห้ของทารกในช่วง 6 เดือนแรก เป็นวิธีเดียวที่จะสื่อสารกับพ่อแม่ได้ว่าต้องการอะไร หากเราปล่อยให้ลูกร้องไห้นานเกินไป อาจส่งผลต่อภาวะมั่นคงทางอารมณ์ได้ ทารกแรกเกิดจึงควรได้รับความอบอุ่นจากอ้อมกอดของพ่อแม่ ลูกติดมือ อุ้มจนหลับ แต่พอวางก็ร้องอีก ทำอย่างไรดี? สำหรับในกรณีที่คุณแม่อุ้มลูกจนหลับคามือ พอเราวางเขาลงปุ๊บ ลูกก็ร้องขึ้นมาทันที หากครอบครัวที่มีคนช่วยเลี้ยง อาจให้สลับกันอุ้มได้ แต่ถ้าไม่มีคนคอยช่วยเลี้ยง […]
เคล็ดลับช่วยลดเท้าบวมหลังคลอด ฟื้นฟูร่างกายคุณแม่ให้เป็นปกติ
เคล็ดลับช่วยลดเท้าบวมหลังคลอด ฟื้นฟูร่างกายคุณแม่ให้เป็นปกติ อาการเท้าบวมหลังคลอดของคุณแม่นั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับคุณแม่ท้องแรก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอด สำหรับคุณแม่บางคนก็อาจเท้าบวมมากขึ้นเมื่อท้องเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันมาจนหลังคลอดก็ยังไม่หาย เรามาดูเคล็ดลับที่จะช่วยลดอาการเท้าบวมหลังคลอดนี้กันดีกว่า ว่าสามารถทำอย่างไรให้หายไวขึ้นได้บ้าง เท้าบวมหลังคลอด เกิดจากสาเหตุอะไร? เพราะช่วงหลังคลอดร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องปริมาณของเหลวและเลือด ทำให้เกิดอาการเท้าบวมหลังคลอดขึ้นได้ ยิ่งในเคสที่ทำการผ่าคลอดจะเกิดเอฟเฟ็กต์ทำให้มีของเหลวมาขังระหว่างเซลล์ แต่ร่างกายจะค่อย ๆ ขับออกมาเอง บวกกับมดลูกที่อยู่ต่ำจนไปกดทับหลอดเลือดทำให้การไหลเวียนไม่สะดวก จึงทำให้เท้าคุณแม่เกิดบวมนั่นเองค่ะ เท้าบวมหลังคลอด จะหายดีได้เมื่อไหร่? อาการเท้าบวมหลังคลอดของคุณแม่จะดีขึ้นได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ พร้อมกับมดลูกที่เข้าอู่ รวมถึงอาการของภาวะหลังคลอดทั้งหมดจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 6 สัปดาห์ หากอาการยังไม่หายภายในระยะเวลานี้ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกตินะคะ แม้ว่าอาการเท้าบวมหลังคลอดจะดีขึ้นได้เองก็ตาม แต่ถ้าเรารู้เคล็ดลับทั้ง 3 ข้อนี้ จะช่วยลดอาการเท้าบวมหลังคลอดให้หายไวขึ้นได้ คุณแม่จะได้คลายกังวล แถมยังได้ฟื้นฟูร่างกายให้กลับมามีพลังเหมือนเดิมอีกด้วยค่ะ 3 เคล็ดลับช่วยลดอาการเท้าบวมหลังคลอดให้หายไวขึ้น 1. ลดเท้าบวมหลังคลอดต้องดื่มน้ำอย่างน้อย 10 แก้ว/วัน คุณแม่ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพราะจะช่วยขับน้ำที่อยู่ภายในร่างกายออกทางปัสสาวะ แนะนำให้ดื่มอย่างน้อย 10 แก้ว หรือ 2.3 […]