ป้องกันลูกขาดความมั่นใจ ด้วยการปลูกฝัง Self Esteem ให้ตั้งแต่เด็ก
คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากเห็นลูกขาดความมั่นใจหรือไม่มีความนับถือในตัวเอง เพราะความมั่นใจคือพื้นฐานสำคัญที่จะพาไปสู่ความสำเร็จของลูกในอนาคต เพราะแบบนี้ Cotton Baby จึงมีเคล็ดลับเลี้ยงลูกที่ช่วยปลูกฝัง Self Esteem ให้ได้ตั้งแต่ยังเล็กมาฝาก เสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง เตรียมพร้อมเผชิญกับโลกกว้างในอนาคตได้อย่างแข็งแรงทั้งกายและใจ พร้อมแล้วไปดูกันเลย
รู้จัก Self Esteem คืออะไร
Self Esteem หรือการรับรู้และเชื่อมั่นคุณค่าในตัวเอง รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อตัวเองในแง่ของความสามารถ คุณลักษณะ ความมั่นใจ และความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเด็กที่มี Self Esteem สูง มักจะมีความเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าตัดสินใจ และมีทัศนคติเชิงบวกต่อตัวเอง ส่วนเด็กที่มี Self Esteem ต่ำ อาจมีความรู้สึกที่ด้อยคุณค่า ขาดความมั่นใจในตัวเอง หรือรู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอ ซึ่งทักษะ Self Esteem จะส่งผลต่อพฤติกรรมและการตัดสินใจในชีวิตประจำวันของลูกไปยันตอนโตได้เลย
แต่เรื่องของ Self Esteem เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มปลูกฝังและเสริมสร้างให้ลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อป้องกันปัญหาลูกขาดความมั่นใจไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นั่นเอง
ลูกขาดความมั่นใจ ป้องกันได้ด้วยการสร้าง Self Esteem
1. มอบ Quality Time ให้ลูก
หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดแต่มีผลกระทบอย่างมากต่อการสร้างความมั่นใจของเด็กคือ การให้เวลาอย่างมีคุณภาพ เมื่อคุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาในการฟังและสนใจสิ่งที่ลูกพูด จะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญ และการมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและพูดคุยสื่อสารได้อย่างเปิดเผยจะช่วยให้ลูกกล้าพูดและกล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้น นับเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนา Self Esteem ไม่ให้ลูกขาดความมั่นใจ
2. สอนให้ลูกตัดสินใจด้วยตัวเอง
การให้ลูกได้ตัดสินใจด้วยตัวเองเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง เมื่อลูกได้มีโอกาสเลือกหรือแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ เช่น เลือกเสื้อผ้ารองเท้าที่จะใส่ หรือเลือกกิจกรรมที่ชอบ จะทำให้ลูกเข้าใจว่าตัวเองมีสิทธิและเสียงในการเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง ซึ่งเป็นการสอนให้ลูก ๆ มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องสนับสนุนให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย ช่วยฝึกให้ลูกได้คิด วิเคราะห์ แก้ไขปัญหา เป็นการเตรียมตัวสำหรับการตัดสินใจที่ซับซ้อนมากขึ้นในอนาคตที่ต้องเติบใหญ่ ที่สำคัญ การให้โอกาสลูกแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองจะส่งผลให้ลูกได้เรียนรู้ความผิดพลาด ยอมรับเป็นบทเรียน และก้าวข้ามผ่านสิ่งนั้นไปให้ได้ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจทางความคิดและการกระทำไปอีกขั้น
3. ส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้และทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น
รู้หรือไม่ เมื่อเด็กเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเองจะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น เพราะฉะนั้น การให้โอกาสลูกได้ทำงานง่าย ๆ เอง เช่น ทำความสะอาดห้อง ทำการบ้าน หรือช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ในบ้านบ้าง จะทำให้ลูกรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและได้รับการยอมรับ
ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรให้การสนับสนุนและแนะนำในกรณีที่ลูกพบปัญหา แต่ควรหลีกเลี่ยงการทำให้แทน เพื่อเป็นการสอนให้ลูกได้เรียนรู้จากความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความรับผิดชอบ มิเช่นนั้นลูกจะขาดความมั่นใจในตัวเองไปได้
4. ชื่นชมในความพยายาม ไม่ใช่ผลลัพธ์
การให้คำชมเชยกับลูกให้เน้นไปที่ความพยายามมากกว่าผลลัพธ์ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม แต่ความตั้งใจและความพยายามจะทำให้เด็กเข้าใจว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากการชนะหรือแพ้ แต่คือการพยายามทำให้ดีที่สุด การชื่นชมในความพยายามจึงช่วยส่งเสริมให้เด็กมีทัศนคติเชิงบวกต่อการทำงานและกล้าที่จะพยายามทำสิ่งต่าง ๆ แม้จะพบอุปสรรคระหว่างทาง ตัวอย่างเช่น หากลูกไม่ได้คะแนนสูงสุดในวิชาใดวิชาหนึ่ง แทนที่จะวิจารณ์ผลลัพธ์ คุณพ่อคุณแม่ควรชมเชยในความพยายามที่ลูกได้ทำ หรือให้กำลังใจในทัศนคติเชิงบวกจะช่วยให้ลูกไม่รู้สึกผิดหวังหรือท้อแท้ และพร้อมจะพยายามใหม่อีกครั้ง ไม่ทำให้ลูกขาดความมั่นใจ
5. พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี
เด็กเรียนรู้โดยการสังเกต พ่อแม่จึงเป็นแบบอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดที่ลูกจะยึดเป็นแนวทางได้ และจะปลูกฝังพฤติกรรมเหล่านั้นในตัวเด็ก เมื่อพ่อแม่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในคำพูดและการกระทำ เช่น การพูดอย่างชัดเจน แสดงออกถึงความคิด การจัดการกับความผิดหวังหรือความล้มเหลวด้วยทัศนคติเชิงบวก จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต นอกจากนี้การแสดงให้เห็นว่าการล้มเหลวหรือผิดพลาดในชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้และเป็นโอกาสในการเรียนรู้ จะช่วยลดความกดดันให้ลูกและเสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับความท้าทายในชีวิต
6. ฝึกให้ลูกได้เป็นผู้ให้หรือจิตอาสา
การปลูกฝังให้ลูกมีจิตใจที่เอื้อเฟื้อและพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง ช่วยไม่ให้ลูกขาดความมั่นใจ เพราะการที่ลูกได้ทำงานจิตอาสาหรือช่วยเหลือผู้อื่นจะทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและมีความสามารถในการทำให้โลกดีขึ้น อาจเริ่มจากสิ่งง่าย ๆ ก่อนก็ได้ เช่น แบ่งปันของเล่น หรือบริจาคสิ่งของที่ไม่ได้ใช้เหลือ ช่วยเหลือเพื่อนบ้าน หรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชนส่วนรวม ลูกจะเรียนรู้เรื่องการเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจในตัวเองได้อย่างดี
ปัญหาลูกขาดความมั่นใจจะไม่เกิดขึ้น หากพ่อแม่เตรียมตัวเสริมสร้าง Self Esteem ให้ลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ทักษะที่จะช่วยให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง รู้จักคุณค่าของตัวเอง และพร้อมเผชิญกับความท้าทายในชีวิตต่อไปได้เป็นอย่างดี