พ่อแม่ต้องรู้ มีสัตว์เลี้ยงที่บ้านช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
เคยสังเกตมั้ยว่าบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง เด็กบ้านนั้นจะเป็นคนจิตใจอ่อนโยน เพราะอะไรกันนะ? มีหลายงานวิจัยออกมาบอกว่าการที่เด็กได้เติบโตไปพร้อม ๆ กันกับสัตว์เลี้ยง ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อพัฒนาการเด็กทั้งในด้านสังคม อารมณ์ และการศึกษา
Cotton Baby ขอมายืนยันอีกเสียงว่าการมีสัตว์เลี้ยงนั้นช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กในหลาย ๆ ด้านได้จริง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึง 4 ข้อหลัก ซึ่งควรไปสำรวจให้รอบคอบก่อนตัดสินใจว่าจะเลี้ยงแบบจริงจังนะ
4 ข้อสำคัญ พ่อแม่ต้องคิดก่อนมีสัตว์เลี้ยง
ก่อนคิดจะมีสัตว์เลี้ยงในช่วงที่ลูกยังเล็ก พ่อแม่จะต้องคำนึงถึงปัจจัยที่เหมาะสมอยู่หลายอย่าง เช่น จะเลี้ยงอะไร หรือเหมาะกับลูกหรือเปล่า ดังนั้นควรจะคิดว่าคุณสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่
1. แบ่งเวลาให้ถูก
เพราะเวลาเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่บ้านไหนทำงานทั้งวัน พอแบ่งเวลามาช่วยกันเลี้ยงลูกก็ไม่มีเวลาเหลือที่จะทำอย่างอื่นแล้ว แบบนี้ไม่ควรมีสัตว์เลี้ยงหรอกนะ แต่ถ้ามั่นใจว่าสามารถบริหารจัดการเวลาได้ทั้งเลี้ยงลูก ทำงาน และเลี้ยงสัตว์แล้วล่ะก็ข้อนี้ก็หมดห่วงไปได้เลย
2. สัตว์เลี้ยงต้องเหมาะสมกับวัยและพัฒนาการเด็ก
หลายครอบครัวมักเข้าใจผิดว่าสุนัขที่เลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ๆ คงไม่มีทางที่จะทำร้ายลูกได้ แต่ความจริงแล้วมีสุนัขเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่เหมาะกับการเลี้ยงในบ้านที่มีเด็กเล็ก
3. เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก
เด็กวัยแรกเกิดถึง 6 ขวบ มักจดจำ หรือเลียนแบบพฤติกรรมของผู้เลี้ยงดู ดังนั้นคนเลี้ยงจะต้องคอยเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก คอยแสดงความรัก ความอ่อนโยนกับสัตว์เลี้ยงภายในบ้านให้เขาเห็น ลูกจะซึมซับสิ่งเหล่านี้ไปจนโต
4. สอนลูกให้รับผิดชอบในหน้าที่
นี่อาจเป็นข้อดี หากพ่อแม่สามารถสอนหรือฝึกให้รู้ลูกรู้จักมอบความรัก ความเอาใจใส่ให้สัตว์เลี้ยง และฝึกความมีระเบียบวินัยให้ลูกจากการมอบบทบาทหน้าที่ลูกต่อสัตว์เลี้ยง เช่น คอยให้อาหารสัตว์เลี้ยง คอยพาไปเดินเล่น ช่วยอาบน้ำ หรือคอยทำความสะอาดกรง จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่ดีให้กับลูกได้
สัตว์เลี้ยงช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กด้านไหน?
คุณพ่อคุณแม่บางคนมักไม่ชอบใจถ้าลูกขอมีสัตว์เลี้ยง อาจเพราะกลัวเกิดอันตรายบ้าง หรือเด็กยังเลี้ยงไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วนี่จะเป็นอีกตัวช่วยที่สามารถเสริมพัฒนาการเด็กได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ไปดูกันดีว่าทางด้านไหนบ้าง
ด้านร่างกาย
การให้ลูกได้ทำกิจกรรมร่วมกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด เช่น พาไปเดินเล่น เล่นด้วยกัน แทนการปล่อยให้ลูกดูทีวี หรือเล่นเกมในโทรศัพท์ทั้งวันจะช่วยเสริมพัฒนาการเด็กทางด้านร่างกายมากกว่า
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งของประเทศฟินแลนด์บอกว่า เด็กที่ครอบครัวมีสัตว์เลี้ยงพบว่า 31% มีแนวโน้มว่าจะมีสุขภาพแข็งแรงกว่า 44% ติดเชื้อทางหูน้อยกว่า และ 29% ได้รับการติดเชื้อแบคทีเรียน้อยกว่าเด็กที่ครอบครัวไม่มีสัตว์เลี้ยง
ด้านอารมณ์
การที่ลูกได้ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นการกิจกรรมต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กทางด้านอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
เป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส : เพราะได้ปลดปล่อยความซนของเขาได้อย่างเต็มที่ไปกับสัตว์เลี้ยง
จิตใจอ่อนโยนขึ้น : รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หนึ่งข้อดีที่ได้จากการเลี้ยงสัตว์ เด็ก ๆ จะได้รู้จักการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เมื่อเจ้าหมารู้สึกเจ็บ หรือเศร้า ลูกจะรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นด้วย และคอยมอบความรักให้กับพวกมัน
บรรเทาความเครียด : สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยบรรเทาความเครียดของลูกได้ ลองสังเกตว่าเวลาลูกเครียดหรือเศร้า เจ้าสัตว์ตัวโปรดจะเดินเข้ามาคลอเคลียเหมือนรู้ใจ ช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้สัมผัสกับขนนุ่ม หรือกอดพวกมันนั่นเอง
ด้านสังคม
ได้เพื่อนใหม่ : ประสบการณ์สุดแปลกของสัตว์เลี้ยงที่ลูกได้เจอ เช่น จอมกัดรองเท้า เจ้าเหมียวชอบนอนบนตัก หรือเจ้าหมาเล่นซนจนได้แผล จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กทางด้านสังคม ด้วยการนำไปเล่าให้เพื่อนที่โรงเรียนฟัง หรือพาเจ้าตัวโปรดไปเดินเล่นงานแฟร์ต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูก ได้เข้าสังคมใหม่ ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่น ถือว่าเป็นการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีให้ลูกอีกวิธีหนึ่งเลยล่ะ
ด้านพัฒนาการ
มีความรับผิดชอบ : ถ้าพ่อแม่ยอมให้ลูกมีสัตว์เลี้ยงสักตัว จะสามารถส่งเสริมพัฒนาการเด็กด้วยการฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้ ด้วยการสอน หรือมอบหน้าที่บางอย่างที่ลูกพอจะทำได้ เช่น การพาเจ้าตูบไปเดินเล่น คอยช่วยพ่อแม่อาบน้ำให้มัน หรือคอยให้อาหารตามเวลา
มีระเบียบวินัย : สัตว์เลี้ยงช่วยสร้างพัฒนาการเด็ก ฝึกความมีระเบียบวินัยให้ลูกได้ แต่พ่อแม่อาจจะต้องสร้างกฎระเบียบของบ้านอย่างชัดเจนว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรกับสัตว์เลี้ยง เช่น ห้ามให้อาหารน้องหมาเวลาที่เรากำลังทานข้าวอยู่ ไม่ควรให้ขนมน้องหมา หรือฝึกให้น้องหมานั่งรอก่อนเทข้าวให้ ซึ่งกฎที่ตั้งยังช่วยฝึกน้องหมาให้มีระเบียบและไม่ก้าวร้าวกับเจ้าของอีกด้วย
ใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ : เด็กสมัยนี้ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอม หรือโทรศัพท์นานเกินจำเป็น บ้านไหนมีสัตว์เลี้ยงลองให้ลูกได้มีกิจกรรมร่วมกับมันดูบ้าง ขยับร่างกายด้วยการวิ่งซนก็ดีกว่านั่งบนโซฟาจ้องแต่มือถือนะ แถมยังได้ใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์
บางครั้งที่เจ้าตูบวิ่งไปเกา ๆ ที่ประตูบ้าน แล้วลูกเดินไปเปิดให้ นั่นแปลว่าลูกรู้ว่ามันต้องการออกจากบ้าน แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการมีสัตว์เลี้ยงจะช่วยส่งเสริมพัฒนาเด็กได้ ลองนำทริคเหล่านี้ไปปรับใช้กับเด็ก ๆ ที่บ้านดูสิ
