แจกตำราวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดคอลูกน้อย
พ่อแม่ทราบกันไหมว่า ภาวะทางเดินหายใจหรือหลอดอาหารถูกอุดกั้นจากสิ่งแปลกปลอม เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเวลาลูกน้อยทานอาหาร หรือนำของเล่นชิ้นเล็กๆ เข้าปากแบบไม่รู้ตัว โดยเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดคิดแม้จะพยายามหาวิธีป้องกันแล้วก็ตาม ผู้ปกครองจึงไม่ควรละเลยการศึกษา ‘วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดคอลูก’ ไว้ด้วย เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจะได้รับมือได้ทันเวลา
สัญญาณเตือนภัย
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดคอหนูๆ
บางครั้งพ่อแม่ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า เจ้าตัวเล็กจะเผลอหยิบสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าปากเมื่อใด หรืออาหารที่ให้ลูกทานจะเกิดติดคอเพราะลูกกลืนผิดจังหวะหรือไม่ แต่พ่อแม่สามารถใช้วิธีสังเกตความผิดปกติของลูก ได้จากอาการที่เป็นสัญญาณเตือนภัยเหล่านี้
- ลูกมีอาการสำลักขณะทานอาหาร หรือเล่นของเล่นอยู่ดีๆ ก็เกิดอาการไออย่างรุนแรง และไอต่อเนื่องไม่หยุด
- ลูกแสดงอาหารเหมือนหายใจไม่ออก หรือหายใจเสียงดัง เหมือนคนกำลังหอบเหนื่อยอย่างรุนแรง
- ลูกหน้าแดง มีน้ำตารื้น น้ำลายไหลออกมาจาก และแสดงอาการเหมือนคนพยายามจะอาเจียน
- ลูกพูดออกเสียงได้ไม่ชัดเจน หรือพูดแล้วไม่มีเสียง พร้อมเอามือจับที่ลำคอ
- ลูกหายใจเร็ว ติดต่อกันแบบถี่ๆ คล้ายคนหายใจได้ไม่ลึก และใบหน้าเริ่มซีดลง
เมื่อเกิดอาการลักษณะนี้ขึ้นให้พ่อแม่สันนิษฐานเบื้องต้นได้เลยว่า มีสิ่งแปลกปลอมติดคอลูกอยู่ ในกรณีที่ลูกยังพูดได้และยังรู้สึกตัวดีอยู่ อาจลองให้เจ้าตัวเล็กพยายามไอแรงๆ เพื่อให้ของสิ่งนั้นหลุดออกมาเองก่อน ห้ามใช้วิธีเอามือหรือนิ้วล้วงคอเพื่อหยิบสิ่งแปลกปลอมออกจากคอลูกเองเด็ดขาด เพราะเป็นการดันของสิ่งนั้นให้เข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิม จนอาจอุดตันทางเดินหายใจแน่นขึ้นและทำให้หายใจไม่ออกได้ หากลูกลองไอแล้วของสิ่งนั้นยังไม่หลุดออกมา ให้ปฏิบัติตามวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเหล่านี้
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดคอเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี
- เมื่อสังเกตพบสัญญาณที่บ่งบอกว่ามีของติดคอลูก ให้พ่อแม่หาที่นั่งที่มั่นคง แล้วอุ้มลูกในลักษณะคว่ำหน้าลง และให้หน้าของลูกหันออกจากตัวพ่อแม่ ส่วนลำตัวให้พาดไปตามแขนเรา โดยให้ขาทั้ง 2 ข้างคร่อมแขนเราไว้ แล้วโน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อให้ศีรษะของลูกอยู่ต่ำกว่าก้น
- แบมือข้างที่รับน้ำหนักลูกไว้ เพื่อประคองช่วงขากรรไกรและลำคอของลูก ท่าทางลักษณะนี้จะช่วยให้ลูกอ้าปากได้โดยอัตโนมัติ แต่ระวัง! อย่าเผลอบีบคอลูก
- ใช้ส้นมืออีกข้างตบไปที่หลังลูก บริเวณกึ่งกลางสะบักหรือสังเกตุง่ายๆ คือบริเวณที่ค่อนมาทางด้านบนใกล้กับท้ายทอย โดยตบเป็นจังหวะอย่างแรง 5 ครั้ง จนสิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาจากลำคอ
- ในกรณีที่ของสิ่งนั้นยังไม่หลุดออกมา ให้จับลูกน้อยนอนหงาย ใช้มือประคองที่ท้ายทอยไว้เพื่อให้จับลูกได้อย่างมั่นคง – จากนั้นใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของมืออีกข้าง กดลงกึ่งกลางหน้าอกลูกบริเวณราวนมหรือจุดที่อยู่ต่ำกว่าหัวนมเล็กน้อย โดยกดในลักษณะกระแทกเป็นจังหวะอย่างแรง 5 ครั้ง
- ใช้วิธีปฐมพยาบาลสลับกันระหว่างท่านอนคว่ำและท่านอนนอนหงายไปเรื่อยๆ จนกว่าสิ่งแปลกปลอมในลำคอจะหลุดออกมา
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมติดคอเด็กอายุมากกว่า 1 ปี
ที่มารูปภาพ: https://www.youtube.com/watch?v=MaU6G2HKySk
- เมื่อสังเกตพบสัญญาณที่บ่งบอกว่ามีของติดคอลูก ให้พ่อแม่เข้าไปยืนซ้อนด้านหลังลูก ถ้าลูกตัวค่อนข้างเล็กอาจใช้วิธีคุกเข่าก็ได้เพื่อความถนัด
- จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวลูกไว้ โดยกำมือวางไว้ที่บริเวณใต้ลิ้นปี่หรือบริเวณเหนือสะดือ ส่วนมืออีกข้างวางกุมกำปั้นไว้ให้มั่นคง
- มือที่กำปั้นอยู่ให้ออกแรงกดในลักษณะกระตุกเข้าไปที่หน้าท้อง พร้อมกับดันขึ้นที่ทะละนิด ส่วนมืออีกข้างที่กุมกำปั้นอยู่ให้ช่วยออกแรงกดไปพร้อมๆ กัน ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนสิ่งแปลกปลอมในลำคอหลุดออกมา
หมายเหตุ ในกรณีที่ปฐมพยาบาลทุกวิธีแล้วยแต่ยังไม่ได้ผล อีกทั้งลูกน้อยยังอาการแย่ลงเรื่อยๆ หรือหมดสติลง พ่อแม่ต้องรีบพาลูกส่งโรงพยาบาลทันทีหรือโทรเรียกรถพยาบาล โดยระหว่างนี้ต้องคอยปฐมพยาบาลเพื่อประคองอาการไประหว่างทาง ด้วยวิธีการดังนี้
- จับลูกนอนหงายราบกับพื้น ตรวจเช็กดูว่ายังหายใจหรือไม่ หากไม่หายใจให้ดันคางขึ้น เพื่อให้ศีรษะแหงนไปด้านหลังให้มากที่สุด
- ใช้มือบีบจมูกลูกไว้ แล้วเป่าลมเข้าปาก 2 ครั้ง นานครั้งละ 2 วินาที โดยสามารถสังเกตได้ว่าลมเข้าไปในปอดหรือไม่ ได้จากหน้าอกที่ขยับขึ้นลง
- ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นให้เป่าปากสลับกับทำ CPR โดยนั่งคร่อมตัวลูก แล้วใช้ส้นมือข้างหนึ่งวางทาบบริเวณกึ่งกลางระหว่างสะดือกับลิ้นปี่ จากนั้นใช้มืออีกข้างวางซ้อนด้านบน แล้วออกแรงกดเป็นจังหวะต่อเนื่องขึ้นลง 6-10 ครั้ง
- ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงมือแพทย์ ระหว่างที่ทำการปฐมพยาบาลด้วยวิธีนี้ให้คอยสังเกตด้วยว่า สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาอยู่ในช่องปากหรือไม่ ถ้าหลุดออกมาให้รีบใช้มือล้วงออกทันที ก่อนที่ของสิ่งนั้นจะไหลกลับลงคอไปอีกรอบ
คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมด้วยนะว่า แม้จะปฐมพยาบาลได้สำเร็จแล้ว ก็ควรพาลูกไปเช็กสุขภาพซ้ำอีกรอบ เพื่อตรวจดูว่ามีความผิดปกติอย่างอื่นที่เกิดระหว่างการปฐมพยาบาลร่วมด้วยหรือไม่ ที่สำคัญต้องหมั่นสอนลูกเสมอว่า ห้ามนำสิ่งแปลกปลอมเข้าปาก อย่ากินอาหารเร็ว และเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนทุกครั้ง