7 วิธีลดน้ำหนักหลังคลอด บอกลาตัวเลขบนตราชั่ง
หลังจากที่ลูกลืมตาดูโลกแล้ว คุณแม่ก็จะเริ่มมีเรื่องต่าง ๆ ให้ต้องคิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลี้ยงลูก เรื่องค่าใช้จ่าย หรือแม้กระทั้งเรื่องการลดน้ำหนักหลังคลอดของคุณแม่เอง
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกไม่มั่นใจกับรูปลักษณ์ภายนอกของตน และเป็นกังวลต่อเรื่องการลดน้ำหนักหลังคลอดได้
โดยส่วนมากแล้ว คุณแม่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 12 กิโลกรัมตลอดทั้งตั้งครรภ์ ยิ่งเป็นการท้องลูกแฝดก็จะมีน้ำหนักมาขึ้นอีกประมาณ 5-10 กิโลกรัมค่ะ
ลดน้ำหนักหลังคลอดไม่ได้ เป็นเพราะ ?
ร่างกายหลังคลอดยังคงสะสมอาหารไว้เพื่อผลิตน้ำนมให้ลูกอยู่ ดังนั้นไม่เป็นเรื่องแปลกค่ะ หากคุณแม่ยังไม่สามารถลดน้ำหนักหลังคลอดได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ต้องใช้เวลาสักพัก และน้ำหนักของร่างกายจะค่อย ๆ ปรับลดลงมาเองค่ะ
แต่สิ่งที่ควรจะเป็นคือ หลังจากคลอดลูกแล้วประมาณ 6 สัปดาห์ คุณแม่ควรเริ่มมีน้ำหนักตัวที่ลดลงมาบ้างจากช่วงตั้งท้อง จนกระทั่งเวลาผ่านไป 6 -12 เดือนหลังจากคลอด น้ำหนักของคุณแม่ควรกลับมาเป็นเช่นเดิมเหมือนตอนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
เข้าใจพื้นฐานความจริง
ก่อนอื่นคุณแม่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของรูปร่างที่จะไม่สามารถกลับไปเช่นเดิมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หลังจากคลอดลูกนะคะ ถึงแม้ว่าจะเริ่มลดน้ำหนักหลังคลอดแล้วก็ตาม
เพราะการตั้งครรภ์จะทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ถาวร คุณแม่อาจจะมีพุงที่นิ่มลง สะโพกที่ใหญ่ขึ้น หรือรอบเอวที่กว้างขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ
สำหรับคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป ความสามารถในการเผาผลาญแคลอรีจะลดลง ดังนั้นหากต้องการลดน้ำหนักหลังคลอดอย่างรวดเร็ว ควรบริโภคอาหารที่มีแคลอรีน้อย เช่น อาหารประเภทโปรตีน เพราะโปรตีนจะถูกเผาผลาญแคลอรีได้เร็วกว่าคาร์โบไฮเดรต หรือไขมัน
กำหนดเป้าหมาย
การลดน้ำหนักหลังคลอดจำเป็นต้องใช้เวลาสักพัก ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป คุณแม่ต้องใจเย็นไปกับมัน และแน่นอนว่ามันเป็นได้แน่นอนค่ะ
การฟื้นฟูรักษาร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดนะคะ หลังคลอดลูกร่างกายต้องการฟื้นตัวบ้าง หากตัดสินใจเริ่มลดน้ำหนักหลังคลอดทันที อาจจะทำให้ร่างกายคุณแม่ใช้เวลาฟื้นตัวเพื่อจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม นานกว่าปกติค่ะ ควรรอให้ลูกมีอายุประมาณ 2 เดือนก่อน เพราะช่วงเวลานั้นปริมาณน้ำนมของคุณแม่จะเริ่มกลับมาเป็นปกติ และการลดน้ำหนักทันทีก็จะมีผลเสียต่อปริมาณน้ำนมของคุณแม่ได้ค่ะ
การตั้งเป้าหมาย จะทำให้คุณแม่มีความมุ่งมั่นมากกว่า เช่น การให้รางวัลตัวเองเมื่อสามารถลดน้ำหนักได้ 10 กิโลกรัมภายในระยะเวลา 2 เดือน หรือการที่ได้รับกำลังใจหรือการสนับสนุน จะช่วยทำให้คุณแม่รู้สึกดีมากขึ้นในการลดน้ำหนักหลังคลอด
ใช่ค่ะ คุณพ่อนั่นเอง คุณพ่อสามารถเป็นแรงผลักดันสำคัญในการช่วยคุณแม่ลดน้ำหนักหลังคลอดได้ โดยอาจจะเป็นการเข้าร่วมการลดน้ำหนักไปพร้อมกับคุณแม่ เพื่อคุณแม่จะได้มีเพื่อนร่วมเดินทางในภารกิจนี้และเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณพ่อเอง นอกจากนี้วิธีนี้ยังช่วยให้คุณพ่อและคุณแม่มีเวลาเติมความหวานให้กันและกันได้ดีอีกรูปแบบหนึ่ง
ให้น้ำนมลูก เร่งหุ่นสวย
ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่แน่ชัดว่าการให้นมลูก จะช่วยให้คุณแม่สามารถลดน้ำหนักหลังคลอดได้ แต่ที่แน่นอนคือการให้น้ำนมลูกจะช่วยให้คุณแม่กลับไปมีน้ำหนักเหมือนก่อนได้เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากกระบวนการสร้างน้ำนมนั้น จำเป็นต้องใช้ไขมันที่ถูกเก็บไว้ในร่างกายเป็นส่วนประกอบ
นั่นก็หมายความว่าคุณแม่จำเป็นต้องเสริมแคลอรี่ให้มากกว่าปกติ ในช่วง 2 เดือนแรกที่ต้องให้น้ำนมลูก มันอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่คุณตัดสินใจที่จะลดน้ำหนักหลังคลอดอย่างจริงจัง ด้วยวิธีอดอาหาร
กินเพื่อลด
การปรับวิธีกินเพื่อให้ได้โภชนาที่ช่วยเรื่องการเจริญอาหาร จะช่วยลดน้ำหนักหลังคลอดได้ดี แต่หากเป็นช่วงเวลาที่คุณแม่กำลังให้น้ำนมลูก การรับประทานอาหารก็ต้องใส่ใจมากยิ่งขึ้นเพราะอาหารนี้จะต้องมีประโยชน์ต่อตัวสุขภาพคุณแม่ และต้องช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมได้ด้วยเช่นกัน
ควรทานอาหารหลักให้ครบทั้ง 3 มื้อ เพราะคุณต้องใช้พลังงานในการเลี้ยงลูก
รับประทานอาหารจุกจิกบ้างก็ได้นะคะ เป็นพวกของว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ ธัญพืช หรืออาหารที่มีกากใยสูง
ข้าวเช้าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ควรทานให้เป็นนิสัย เพื่อพลังงานสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่
ดื่มน้ำสะอาดวันละ 12 แก้ว และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มอัดลม หรือเครื่องดื่มที่ให้ความหวาน
คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมเพียงอย่างเดียว ต้องได้รับแคลอรี่เพิ่มจากเดิมประมาณ 500 แคลอรีต่อวัน (โดยปกติผู้หญิงจะต้องได้รับ 2,000 แคลอรี่ต่อวัน)
อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจะช่วยให้คุณแม่ลดน้ำหนักหลังคลอดได้ และกลับมามีหุ่นฟิตเหมือนเดิมได้เร็วมากขึ้น แต่ไม่ควรอดอาหารเลย เพราะจะทำให้คุณได้รับปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำ ซึ่งในทางตรงกันข้ามแล้วหลังจากคลอดลูก คุณแม่ควรได้รับปริมาณแคลอรีที่มากกว่าปกติด้วยซ้ำ
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายถือเป็นวิธีที่ช่วยลดน้ำหนักหลังคลอดได้ดี เพราะจะช่วยเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นกล้ามเนื้อ และคุณแม่ควรออกกำลังกาย หลังจากคลอดลูกแล้วประมาณ 6 สัปดาห์ (หรือ 1-2 เดือน)
เมื่อคุณแม่พร้อมที่จะลดน้ำหนักหลังคลอดแล้ว ควรเริ่มจากการขยับให้มากขึ้นในแต่ละวันก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มความแรงในแต่ละวัน และไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงจนเกินไป เพียงวันละอย่างน้อย 30 นาทีก็พอแล้วค่ะ
การคาร์ดิโอ จะช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ปอดและยังช่วยเผาผลาญแคลอรีได้อย่างดี เช่น การเดิน วิ่งจ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค
การเล่นโยคะ จะช่วยให้คุณแม่กลับมามีหุ่นที่กระชับได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการลดน้ำหนักหลังคลอดมาก ๆ เลยค่ะ
ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายที่โรงยิม เพียงแค่ขยับตัวไปมาเป็นประจำที่บ้านก็นับว่าเป็นการออกกำลังกายแล้วค่ะ
อุ้มลูกน้อยทั้งวัน ก็ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อได้เช่นกันนะ
เดินรอบ ๆ หมู่บ้านพร้อมกับลูกน้อยบนรถเข็น แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักหลังคลอดที่ดีของคุณแม่แล้วค่ะ
การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักหลังคลอดแล้ว ยังจะช่วยให้คุณแม่ห่างไกลจากสภาวะทางจิตใจ บรรเทาความเครียดจากการเลี้ยงลูก และช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อย่าเครียด
การกดดันตัวเอง หรือเครียดจากการได้ยินคนนินทาเรื่องน้ำหนักตัวของคุณแม่ เป็นเรื่องที่อันตรายมากต่อคุณแม่หลังคลอด เพราะความเครียดจะส่งผลต่อน้ำนมลูก แต่หากมีสภาพจิตใจที่ดีจะช่วยให้คุณแม่สามารถลดน้ำหนักหลังคลอดได้ดีเช่นกัน ดังนั้นยิ้มเข้าไว้ค่ะ
พักผ่อน เป็นสิ่งสำคัญ
การนอนหลับพักผ่อน เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่อย่างมาก และการอดนอนจะมีผลเสียต่อน้ำหนักของคุณแม่ได้ด้วย
การนอนหลับครบ 8 ชั่วโมงเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับคุณแม่ ๆ ที่เลี้ยงลูกด้วยตนเอง เพราะลูกวัยทารกต้องการคุณแม่ตลอดเวลาที่เขาลืมตา ไม่ว่าจะเป็นเช้า กลางวัน เย็น หรือดึกก็ตาม เครื่องจักรในตัวคุณแม่ต้องพร้อมทำงานสำหรับเขาเสมอ แต่สิ่งนี้จะมีผลต่อการลดน้ำหนักหลังคลอดด้วยค่ะ
การดูแลลูกน้อยที่พึ่งเกิด จะทำให้คุณมีเวลาดูแลตัวเองน้อยลง เพียงการออกกำลังกายนิด ๆ หน่อย ๆ และใส่ใจการกินที่มากขึ้น จะช่วยทำให้คุณแม่มั่นใจได้แล้วว่าร่างกายของคุณแม่นั้นแข็งแรง
การรับประทานอาหารคู่กับออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการลดน้ำหนักหลังคลอด และพึงระลึกไว้เสมอว่าสิ่งที่กระทำไป คือประโยชน์ที่มากกว่าตัวเลขบนตราชั่ง
