รวมทริควิธีทำความสะอาดบ้านให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค
แม้ว่าคุณจะกักตัวอยู่บ้านไม่ออกไปไหน นั่นก็ไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัยจากเชื้อโรคได้ 100% นะ ทั้งตอนรับของจากคนส่งของแล้วมาจับของใช้ในบ้าน หรือสมาชิกในบ้านที่ออกไปแล้วกลับมาจับโน่นจับนี่อีก บ้านไหนมีเด็กเล็กที่ชอบจับของแล้วเอาเข้าปากตัวเอง แบบนี้พ่อแม่ยิ่งควรต้องระวังมากเป็นพิเศษ
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการหมั่นทำความสะอาดบ้านของเราอยู่เสมอ เพื่อกำจัดเจ้าเชื้อโรคออกไปให้หมด Cotton Baby เลยรวบรวมสารพัดวิธีทำความสะอาดบ้านให้ปลอดภัยจากเชื้อโรคมาฝาก ทั้งสิ่งที่ต้องรู้ อุปกรณ์ และวิธีทำความสะอาดแบบครบทุกขั้นตอน ไปอ่านกันเลย
Covid-19 ติดเชื้อได้ทางไหน และอยู่ได้นานเท่าไหร่
ไวรัส Covid-19 เป็นไวรัสชนิดที่มีเปลือกหุ้มที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ต่ำกว่าไวรัสชนิดเปลือย สามารถแพร่เชื้อได้ 2 ทางคือ
1. การสูดลมหายใจเอาละอองน้ำมูก น้ำลายที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป เช่น การไอ การจาม หรือพูดคุยด้วยเป็นเวลานาน
2. คือการสัมผัสกับละอองโดยตรง ก็คือการที่มือของเราไปหยิบ จับสิ่งของต่าง ๆ ที่มีเชื้อโรคอยู่ ทำให้เราต้องหมั่นทำความสะอาดบ้าน เช็ดแอลกอฮอล์เข้มข้น 70% หรือล้างมือด้วยสบู่บ่อย ๆ เพื่อฆ่าเชื้อโรค
ส่วนระยะเวลาการคงอยู่ของเชื้อไวรัส Covid-19 กับของใช้ หรือบนพื้นผิวต่าง ๆ นั้นมีเวลาที่แตกต่างกัน เช่น สามารถอยู่บนพื้นผิวพลาสติกได้นานสุดถึง 9 วัน อยู่บนอุปกรณ์เครื่องใช้พื้นผิวเซรามิก ยาง ไม้ เหล็ก โลหะ หรือแก้วได้นาน 4 – 5 วัน ติดอยู่บนกระดาษหรือเงินได้ 5 วัน
สิ่งที่ต้องสวมใส่ก่อนทำความสะอาดบ้าน
อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน ฆ่าเชื้อโรค
- Alcohol 70 – 95%
- Hydrogen Peroxide 0.5% (ยาล้างแผล)
- NA Hypochlorite (น้ำยาซักผ้าขาว)
- Povidine 0.23 – 0.47% (ประเภทเดียวกับยาใส่แผลสด)
- สบู่ค่าความเป็นเบสสูงกว่า pH 9/ กรดค่าน้อยกว่า pH 5
Tips :
– Chlorhexidine (ส่วนประกอบของน้ำยาบ้วนปาก) ใช้ไม่ได้ผล!
– ข้าวของเครื่องใช้ที่หยิบจับบ่อย พื้นผิวที่ใช้งานประจำ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง หรือพื้นผิวโลหะ ใช้แอลกอฮอล์เช็ดแล้วทิ้งไว้จนแห้ง
– เสื้อผ้าซักตามปกติ แต่ถ้าซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิ 60 – 90 องศาเซลเซียสจะดีมาก
– ทำความสะอาดพื้นห้อง ใช้สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ 500 ppm (0.05%) โดยเตรียมไฮเตอร์(ความเข้มข้น 6%) 1 ฝาเล็ก + น้ำ 1 ลิตร จะได้ความเข้มข้น 600 ppm
– ทำความสะอาดพื้นที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระ ใช้สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ 5,000 ppm (0.5%) โดยเตรียมไฮเตอร์ (ความเข้มข้น 6%) 1 ขวดเล็ก + น้ำ 5 ลิตร
– ห้ามฉีดหรือพ่นน้ำยา เพราะทำให้เกิดละอองน้ำกระจายขึ้นมา ถ้ามีเชื้อค้างอยู่อาจทำให้เชื้อฟุ้งลอยมาเปื้อนตัวผู้ทำความสะอาดและเครื่องใช้
วิธีทำความสะอาด 4 ห้องในบ้าน
ห้องนอน
เป็นห้องที่เราต้องสัมผัสคลุกคลีอยู่เป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ช่วงนี้อาจจะซักผ้าด้วยน้ำร้อนตามอุณหภูมิที่เราบอกไปด้วยนะ หรือถ้าไม่มีเวลาทำจริง ๆ ก็ควรหาผ้าคลุมเตียงมาคลุมไว้ตอนไม่ได้ใช้ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองสะสม
ส่วนของใช้ในห้อง ตู้ โต๊ะ เก้า อี้ เตียง เครื่องสำอางต่าง ๆ ก็ให้ทำความสะอาดด้วยการใช้แอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70% ขึ้นไปเช็ดให้แห้ง
ห้องนั่งเล่น
ห้องรวมเฟอร์นิเจอร์หลายชนิด สามารถทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคด้วยการเอาแอลกอฮอล์เช็ดแล้วรอให้แห้ง พอฆ่าเชื้อโรคแล้วก็อย่ารอให้ฝุ่นเกาะ ไม่ยอมทำความสะอาดล่ะ พวกของใช้ต่าง ๆ ควรเอามาปัดฝุ่นเช็ดถูอย่างละสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนของที่ไม่ได้ใช้จริง ๆ ก็เก็บเข้าตู้ให้เป็นระเบียบ ฝุ่นจะได้ไม่เกาะ
ห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นแหล่งที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งต่าง ๆ ก่อนทำความสะอาดให้ราดสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ 5,000 ppm ทิ้งไว้ก่อน 15 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยใช้น้ำยาล้างห้องน้ำขัดถูกตามปกติ และการใช้ชักโครกแต่ละครั้งควรปิดฝาชักโครกให้เรียบร้อย เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค นอกจากนี้ต้องคอยทำความสะอาดสายชำระบ่อย ๆ ด้วยนะ
ห้องครัว
ทั้งห้องครัว และโต๊ะทานอาหารมักจะมีคราบติดอยู่ตามจุดต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี และยังส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้ ทิ้งเศษอาหารและขยะทุกวัน ห้ามปล่อยค้างคืน ภาชนะที่เก็บจานชามก็ต้องปิดให้มิดชิดกันเชื้อโรค
ส่วนการฆ่าเชื้อพวกของใช้ต่าง ๆ ในห้องครัวให้ใช้ล้างยาล้างจานที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อได้จริง ไม่ควรผสมน้ำเปล่า ล้างน้ำยาด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ครั้ง แล้วนำไปตากแดด หรืออบด้วยความร้อนให้แห้ง เก็บให้สูงจากพื้นประมาณ 60 เซนติเมตร
10 จุดเสี่ยงที่ต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคเป็นพิเศษ
ลูกบิดประตู : จุดที่มีคนสัมผัสตลอดเวลา อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ควรทำความสะอาดด้วยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
สวิตช์ไฟ : โดยเฉพาะสวิตช์ไฟในห้องน้ำอาจมีเชื้อโรคอาศัยอยู่มากกว่าที่เราคิด เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคไปสู่คนอื่นได้จากการสัมผัส ควรเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ให้ทั่วก่อนจะนำผ้าแห้งมาเช็ดซ้ำอีกครั้งสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ก๊อกน้ำ : อีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องสัมผัสบ่อย ๆ แต่มักมองข้ามเรื่องการทำความสะอาดบ้าน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำร้อนหรือน้ำสบู่มาเช็ดแล้วล้างออกสัปดาห์ละครั้ง
ราวจับบันได : สามารถทำความสะอาดได้โดยผสมน้ำร้อนและน้ำส้มสายชู จากนั้นนำผ้าจุ่มแล้วบิดหมาด ๆ ไปเช็ดราวจับบันได แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง ควรทำสัปดาห์ละครั้ง
ถังขยะ : เอาขยะไปทิ้งทุกวัน แต่แบคทีเรียอาจยังหลงเหลืออยู่นะ ควรล้างด้วย้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคพร้อมขัดสิ่งสกปรกออก ทำสัปดาห์ละครั้ง
ต้นไม้ในบ้าน : ทั้งต้นไม้จริงและปลอมต่างเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและสิ่งสกปรก โดยเฉพาะต้นไม้ในห้องนอนที่เป็นตัวก่อให้การสารก่อภูมิแพ้ที่อาจเข้าสู่ร่างกายทางระบบหายใจ ต้นไม้จริงควรยกไปฉีดน้ำล้างสิ่งสกปรกออก ถ้าเป็นต้นใหญ่ให้นำผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดทีละใบแทน ส่วนต้นไม้ปลอมให้ใช้ไดร์เป่าฝุ่นออก
ของใช้ลูก : ทั้งของใช้และของเล่นลูกให้ทำความสะอาดโดยผสมน้ำยาทำความสะอาดกับน้ำเปล่า แช่ของเล่นไว้ 10 นาที แล้วเช็ดให้แห้ง
รีโมททีวี : ทำความสะอาดได้โดยใช้แอลกอฮอล์ ผ้านุ่ม ๆ และคอตตอนบัต วิธีทำคือให้จุ่มผ้านุ่มในแอลกอฮอล์บิดหมาด ๆ แล้วนำไปเช็ด บริเวณซอกปุ่มกดใช้คอตตอนบัตแทน
โทรศัพท์มือถือ : ใช้แอลกอฮอล์เจล หรือแบบน้ำใส่บนสำลี เช็ดทำความสะอาด หลังจากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดซ้ำอีกครั้ง
มุ้งลวด มู่ลี่ : อาจจะดูทำความสะอาดยากสักหน่อย แต่ต้องทำนะ! ให้ล้างด้วยน้ำสบู่แล้วใช้แปรงขัด ก่อนนำไปผึ่งให้แห้ง พร้อมใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรางมุ้งลวด ส่วนมู่ลี่ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำเช็ดทีละซี่ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกรอบ
อ่านมาถึงตรงนี้คงเข้าใจมากขึ้นแล้วใช่ไหมว่าจะเริ่มทำความสะอาดบ้านให้ปลอดภัยจากเชื้อโรคอย่างไร ถ้ารู้ขั้นตอนทั้งหมดแล้วก็เริ่มทำได้เลย อย่าปล่อยให้บ้านเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค มาป้องกันเจ้าตัวเล็กจากไวรัสตัวร้ายกัน
