คลายความสงสัยหลายหลากความเชื่อ
ทำไมโบราณเขาว่าคนท้องห้ามทำ ?
“ ท้องไส้อยู่ให้ระวัง อันนู้นไม่ดี อันนี้อย่าทำ โบราณเขาว่าไว้ ” หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำกล่าวนี้จากผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่รอบๆ ตัวกันมาบ้าง ซึ่งตั้งแต่เด็กยันโตจนใกล้จะเป็นพ่อเป็นแม่คน คำกล่าวที่ว่าโบราณเขาว่าไว้ก็ตามติดชีวิตเรามาเสมอ ซึ่งเรามักจะปฏิบัติตามเพื่อให้ผู้ใหญ่สบายใจมาโดยตลอด
บางข้อปฏิบัติที่คำโบราณได้กล่าวไว้ดูไม่ Make Sense สักเท่าไหร่ สาเหตุเพราะในสมัยโบราณเทคโนโลยีทางการแพทย์ยังเข้าไม่ถึงพื้นที่ที่เราอยู่มากนัก จึงทำให้กระบวนการและวิธีการคลอดลูกนั้นถูกปฏิบัติกันแบบความเชื่อเรื่อยมา เป็นประสบการณ์แบบปากต่อปาก คนมีอายุผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะกว่า จึงมักที่จะตั้งกฎหรือคำไว้เตือนใจเพื่อป้องกันไม่ให้คนที่กำลังจะเป็นแม่ประมาท หรือทำอะไรที่ไม่สมควรทำในช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์อยู่
วันนี้ Cotton Baby ยกตัวอย่างคำโบราณกล่าวไว้มาบ้างเล็กน้อย เพื่อพาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไปสืบเสาะหาข้อเท็จจริงกันว่า ที่โบราณเขาว่าไว้ มันจริงเท็จแค่ไหน ทำไมถึงไม่ให้ทำ
ท้องอยู่ไม่ให้ไปเฝ้าไข้ ถ้าขืนทำคนที่ป่วยอยู่จะหายช้าลง
คนโบราณมักอ้างนู่นอ้างนี่เพื่อให้คนที่ตั้งครรภ์อยู่ได้คิดพิจารณา ซึ่งในคำกล่าวนี้ เห็นได้ชัดว่าในขณะที่ท้องอยู่ หากไปอยู่ใกล้คนที่ป่วยหรือไม่สบายอยู่นั้น อาจทำให้ติดเชื้อโรคจากคนไข้มาได้ นอกจากจะกระทบกับคุณแล้วอาจจะกระทบกับทารกในท้องคุณด้วยก็ได้ ในความจริง Cotton Baby คิดว่าญาติผู้ใหญ่เขาไม่ได้กลัวคนป่วยจะหายช้าหรอก เขากลัวคุณแม่จะป่วยต่างหาก
ท้องอยู่ไม่ให้เข้าไปร่วมพิธีกรรมต่างๆ จะทำให้พิธีเสื่อมทันที
ในการทำพิธีกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมทางศาสนาหรือพิธีกรรมอื่นๆ จำเป็นที่จะต้องอยู่ในอาการสำรวมและต้องนั่งอยู่กับที่ตลอดเวลา ในความเป็นจริงแล้วหากกำลังท้องอยู่ควรนั่งในอากัปกิริยาที่สบายตัว ไม่แน่น และอึดอัดจนเกินไป ที่สำคัญคือหากเป็นช่วงเวลาที่ท้องแก่แล้วเข้าไปร่วมพิธี อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างเจ็บท้องคลอดหรือน้ำคร่ำแตกขึ้นมาได้ เป็นเรื่องใหญ่แน่นอนล่ะทีนี้
ท้องอยู่ห้ามนั่งขวางบันได ไม่อย่างนั้นจะคลอดลูกยาก
นั่งขวางบันได? คลอดลูกยาก? สงสัยล่ะสิคะว่าเกี่ยวข้องกันยังไง ที่โบราณเขากล่าวไว้เช่นนี้ไม่ได้จะทำให้คุณแม่คลอดลูกยากขึ้นหรอกค่ะ การนั่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอย่างบันได อาจเป็นจุดอับที่เล็ดลอดจากสายตา หากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจะช่วยไม่ทัน จึงทำให้เกิดอันตรายกับคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ เพราะฉะนั้นคนโบราณเขาจึงตั้งเอาไว้เพื่อเตือนสติไม่ให้ไปนั่งตรงที่ที่อันตรายอย่างบันได
ท้องอยู่ไม่ควรเย็บผ้า หากไม่อยากให้ลูกเกิดมาปากแหว่งเพดานโหว่
ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจใช่ไหมล่ะคะ ในขณะที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรทำงานหนักหรือใช้ร่างกายมากจนเกินไป ซึ่งการเย็บผ้าจำเป็นที่จะต้องเพ่งสายตาใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับเข็ม ด้าย และผ้า หากทำเป็นเวลานานอาจจะทำให้รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกาย หรืออาจปวดหลังได้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการที่ลูกคลอดออกมาแล้วจะปากแหว่งเพดานโหว่แต่อย่างใด ญาติผู้ใหญ่เพียงไม่อยากให้คุณแม่ทรมานร่างกายกับการนั่งขดหลังแข็งเย็บผ้าตามธรรมเนียมแม่บ้านเท่านั้นเอง
ท้องอยู่ห้ามนอนหงาย เดี๋ยวลูกหลุด
คำโบราณที่กล่าวไว้ในข้อนี้อาจเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ เนื่องด้วยในทางการแพทย์ก็มักจะแนะนำให้คุณแม่นอนเอียงตัวสักเล็กน้อย แล้วใช้หมอนประคองครรภ์เอาไว้ เพื่อให้ทารกในท้องไม่รู้สึกว่าถูกกดทับจนเกินไป ไม่ควรนอนหงายเพราะอาจทำให้ทั้งคุณแม่และเบบี๋ในครรภ์หายใจไม่สะดวก แต่เรื่องเด็กหลุด Cotton Baby ว่าไม่น่าจะจริงนะคะ แหะๆ
ท้องอยู่อย่าไปแหงนหน้ามองพระจันทร์ ถ้าไม่อยากให้ลูกตาเหล่หรือตาบอด
ในสมัยโบราณการออกไปมองปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าหรือออกไปยืนชมพระจันทร์ในตอนกลางคืน เป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อความเพลิดเพลิดอย่างหนึ่ง คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่มีภาวะเสี่ยงที่จะวูบหรือเป็นลมในตอนไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นหากไปแหงนหน้ามองสิ่งที่อยู่ด้านบนฟ้ามากจนเกินไป เกิดวูบไม่ทันรู้ตัว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือกระทบต่อลูกในท้องได้ เพราะฉะนั้นคนโบราณจึงกล่าวไว้เพื่อไม่ให้คุณแม่ออกไปนอกบ้านในยามค่ำคืน
ท้องอยู่ไม่ควรไปดูคนอื่นคลอดลูก ไม่อย่างนั้นลูกในท้องจะคลอดไม่ออก
คำกล่าวนี้คุณแม่อาจเคยได้ยินกันบ่อย ถือเป็นเคล็ดอย่างหนึ่ง เนื่องจากคนเฒ่าคนแก่กังวลว่าคุณแม่มือใหม่จะมองเห็นคนที่กำลังคลอดอยู่เป็นภาพตัวเองในอนาคต อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลขึ้นได้ กลับมาบ้านแล้วอาจทำให้จิตตกมีภาวะเครียด จนอาจทำให้มีผลกระทบกับลูกในครรภ์ได้ เพราะเหตุนี้เองคุณแม่มือใหม่จึงไม่ควรไปให้กำลังใจคุณแม่ท่านอื่นโดยการไปดูเขาคลอด รอคิว รอเวลาก่อนนะคะ
ท้องอยู่ไม่ควรให้คนอื่นเดินผ่านหลัง ถ้าไม่อยากแท้ง
ความเชื่อนี้อาจดูไม่น่าเชื่ออย่างแรง แค่เดินผ่านหลังจะทำให้แท้งได้อย่างไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคำกล่าวนี้เป็นเพียงการเตือนสติคุณแม่ให้ระมัดระวังเท่านั้น เพราะในขณะที่คุณแม่กำลังตั้งท้อง อาจจะทำให้เดินเหินลำบากขึ้น หากมีคนมาเดินผ่านหน้าผ่านหลังโดยไม่ระมัดระวัง อาจทำให้สะดุดล้มชนคุณแม่จนเกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นแท้งได้ เพราะฉะนั้นการที่ความเชื่อนี้ถูกพูดต่อๆ กันมาเป็นเหมือนการย้ำให้คุณแม่ระมัดระวังมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่เองและเด็กในท้องด้วย
ความเชื่อเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ซึ่งคำโบราณที่คนเฒ่าคนแก่ได้กล่าวเอาไว้ ล้วนแล้วแต่พูดขึ้นมาเพื่อเตือนสติให้คนรุ่นหลังได้นำไปพิจารณาและไตร่ตรองให้ดีก่อนจะทำการอะไรสักอย่าง
คำกล่าวที่ Cotton Baby ได้ยกตัวอย่างมาด้านบนก็เช่นกัน คนโบราณเขาว่าไว้เพื่อเตือนสติคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ให้ระมัดระวังการใช้ชีวิตประจำวันให้ดี เพราะสิ่งต่างๆ ที่ได้กล่าวมาเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักมากจนเกินไป ควรดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างดี เพราะเด็กน้อยในครรภ์จะได้รับผลพลอยได้เหล่านี้ไปด้วย
ถึงบางประโยคจะดูไม่ Make Sense อยู่บ้าง แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ท่านก็เตือนด้วยความหวังดี คุณแม่อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เพื่อความแข็งแรงของตัวคุณแม่เองและเบบี๋ในท้องด้วย