วิธีเลือกซื้อ Car Seat ตัวช่วยการเดินทาง
พร้อมแนะนำแบรนด์น่าใช้
อุปกรณ์ Car Seat (คาร์ซีท) ที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจคิดว่าเป็นอุปกรณ์ที่ยังไม่จำเป็น เพียงคุณแม่นั่งและอุ้มด้วยก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากเมื่อไหร่ที่ต้องใช้เวลาอยู่บนรถนานๆ ล่ะก็… Car Seat นี่แหละอุปกรณ์สำคัญ ที่จะทำให้ลูกน้อยของเราปลอดภัย ช่วยป้องกัน ลดความเสี่ยงการถูกกระแทกจากของแข็งได้เป็นอย่างดี และในหลายประเทศที่พัฒนาแล้วยังออกกฎหมายบังคับใช้ Car Seat พร้อมมีบทลงโทษให้แก่คนที่ฝ่าฝืนอีกด้วย สำหรับในประเทศไทยนั้นยังไม่มีข้อบังคับนี้ แต่ก็เป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง
เหตุผลดีๆ ที่ครอบครัวควรเลือกใช้ Car Seat
มีประโยชน์สำหรับคุณแม่ ไม่ต้องคอยอุ้มตลอดการเดินทาง สามารถโฟกัสการขับรถบนท้องถนนได้อย่างเต็มที่ ทำให้คุณแม่สบายใจมากยิ่งขึ้น เมื่อลูกน้อยนั่ง Car Seat ที่ได้มาตรฐาน
ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ Car Seat ช่วยให้การเดินทางด้วยรถยนต์ปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุตั้งแต่เล็กน้อย เช่น เบรกกะทันหัน หรือเด็กๆ อาจเดินรบกวนคนขับ ทำให้ไม่มีสมาธิ และสามารถป้องกันจนถึงอุบัติเหตุใหญ่ๆ ได้ด้วย
เสริมสร้างวินัยตั้งแต่ยังน้อย ให้เด็กๆ คุ้นชิน หากมีการเดินทาง ต้องนั่ง Car Seat ทุกครั้ง เขาจะปลอดภัยที่สุดเมื่อนั่งตรงนี้ เมื่อลูกโตขึ้น เวลาเป็นผู้นั่ง หรือผู้ขับ จะนึกขึ้นได้ว่าต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง
เคล็ด(ไม่)ลับ ของการเลือกซื้อ Car Seat
1. ผลิตจากวัสดุที่สามารถรองรับหรือป้องกันร่างกายของลูกได้
หากคิดว่าเพียงแค่คาดเข็มขัดนิรภัยที่มากับรถยนต์ จะสามารถป้องกันเด็กเล็กได้ล่ะก็ บอกได้เลยว่า เข็มขัดนิรภัยนี้ออกแบบมาสำหรับเด็กที่มีส่วนสูงมากกว่า 140 ซม. ขึ้นไป ถ้ามีส่วนสูงต่ำกว่านี้จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริม
2. เลือกให้เหมะสมกับช่วงวัย
Car Seat สำหรับเด็ก ถูกแบ่งออกเป็น 4 แบบ คือ Rear-Facing, Forward-Facing, Combination Seat และ Booster Seat การใช้งานถูกออกแบบให้เหมาะกับช่วงอายุของเด็ก ตั้งแต่ แรกเกิด จนถึง อายุ 12 ขวบ รวมถึงรูปร่างของเด็กที่แตกต่างกันด้วย
3. Car Seat ที่ผ่านมาตรฐาน
Car Seat ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้มีมากมายเหลือเกิน เพราะฉะนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่ควรตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย โดยการหาฉลากที่มีข้อความ ECE R44/04 แสดงว่าผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยของยุโรปแล้ว และเริ่มมีการนำมาตรฐานใหม่ที่มีความปลอดภัยสูงขึ้นมาใช้ คือ I-SIZE นั่นเอง
4. ฟังก์ชันเสริม ช่วยอำนวยความสะดวก
นอกจากระบบความปลอดภัยแล้ว หากมีฟังก์ชันเสริมอย่าง Car Seat ที่สามารถถอดออกมาซัก ทำความสะอาดได้ง่าย ระบายอากาศดี เพราะเมื่อมีการใช้งาน เด็กๆ อาจทำให้เศษอาหารตกลงไปได้ ทำให้สกปรก เกิดเป็นแหล่งเชื้อโรคได้ หรือแม้กระทั่งช่องใส่ขวดน้ำ ก็อาจเป็นข้อสำคัญในการตัดสินใจเลือก Car Seat
5. ISOFIX
ISOFIX คือ ระบบการติดตั้ง Car Seat มาตรฐานสากลของ International Organisation for Standardisation มีความปลอดภัยสูง ช่วยป้องกันการไหลลื่น และการกระแทกได้ โดยทั่วไปแล้วการติดตั้ง Car Seat กับเบาะรถยนต์ มี 2 แบบ คือ Seat Belt และ ISOFIX ซึ่งข้อจำกัดของ ISOFIX นี้ สามารถติดตั้งกับรถยนต์ได้เฉพาะรุ่นที่รองรับเท่านั้น
4 Car Seat Brands
ตัวช่วยสำหรับการเดินทางของครอบครัว
Combi รุ่น รุ่น Joytrip EG
Combi
แบรนด์ Car Seat นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สำหรับทารกและเด็กอ่อน เปรียบเสมือนผู้ช่วยมือขวาของคุณแม่ มีนวัตกรรม Egg Shock เป็นแผ่นเจลที่ลดการสั่นสะเทือน และป้องกันการกระแทก สามารถป้องกันได้ทุกอย่างที่สัมผัสกับตัวเจล
Daiichi รุ่น D-guard ISOFIX Toddler เป็นระบบ ISOFIX
Daiichi
ไดอิชิ แบรนด์ Car Seat อันดับ 1 จากประเทศเกาหลี มีมาตรฐานจากอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย และดีไซน์ที่รองรับกับสรีระของลูกน้อย ได้รับการการันตีโดยรางวัลเทคโนโลยีจากหลายสถาบัน
Maxi-Cosi รุ่น AxissFix Plus
Maxi – Cosi
แบรนด์ที่เข้าใจคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างดี ต้องการให้เด็กได้นั่ง Car Seat ที่ปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่เองก็สามารถไว้ใจได้ตลอดเวลาการเดินทาง ได้รับรางวัล 5 ดาว จากองค์กรเพื่อผู้บริโภค เหมาะกับเด็กแรกเกิดไปจนถึงเด็กโตเลยทีเดียวล่ะ
Fico รุ่น GE-B
Fico
แบรนด์ Car Seat ของไทย ที่มีคุณภาพมาตรฐานยุโรป ECE R44/04 มีให้เลือกด้วยกันหลายรุ่น สามารถตอบโจทย์ได้ทุกระดับ ที่สำคัญคือราคาจับต้องได้อีกด้วย
ก่อนออกเดินทางอย่าลืมให้ลูกน้อยนั่ง Car Seat เพื่อความปลอดภัยระหว่างอยู่บนรถกันด้วยล่ะ นอกจากคุณพ่อคุณแม่จะได้ความสบายใจของตัวเอง เป็นการฝึกวินัยให้เด็กตั้งแต่ยังแบเบาะแล้ว ยังสามารถควบคุมการขับรถได้อย่างมีสมาธิอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ Car Seat ควรเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวด้วย แล้วอย่าลืมนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะ รับรองเลยว่า Car Seat จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ขาดไม่ได้เลย