เช็กลิสต์อาการที่เป็นสัญญาณ
บอกว่า คุณกำลังตั้งครรภ์แฝด
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ แล้วรู้สึกว่ามีอาการผิดแปลกไป หรือมีอาการบางอย่างที่ทำให้สงสัยว่า กำลังตั้งครรภ์แฝดหรือไม่นั้น ลองมา เช็กอาการตั้งครรภ์แฝด ที่มักพบบ่อยใน คุณแม่ที่กำลังจะได้ลูกแฝดไปพร้อมกันเลยดีกว่า
7 อาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจะได้ลูกแฝด
1.แพ้ท้องอย่างรุนแรง
เมื่อตั้งครรภ์แฝด ฮอร์โมนทุกอย่างจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว บางคนมีอารมณ์เหวี่ยงไปมา หงุดหงิดกับทุกอย่างและมีอาการแพ้ท้องมากกว่าครรภ์ปกติทั่วไปที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคุณแม่บางคนก็แพ้ท้องหนักมาก ถึงขั้นทำอะไรไม่ได้เลย ซึ่งคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝดจะต้องแบกรับอาการแพ้ท้องและอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวนี้อย่างหนักไปจนกว่าจะถึงวันคลอด
2.ท้องใหญ่ และน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝด อาจมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มากกว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ปกติ โดยทั่วไปในครรภ์ปกติจะเริ่มเห็นหน้าท้องออกอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนที่ 5 เป็นต้นไป แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แฝด อายุครรภ์ประมาณ 3 เดือนก็จะเริ่มเห็นได้ว่าท้องใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว แปลว่า คุณแม่ตั้งครรภ์แฝดจะต้องอุ้มท้องที่ใหญ่และหนักกว่าครรภ์ทั่วไป ตั้งแต่เดือนที่ 5 และท้องก็จะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าลูกจะคลอดนั่นเอง
3.มีความรู้สึกว่าลูกดิ้น เร็วกว่าการครรภ์ปกติ
คุณแม่ส่วนใหญ่ที่ตั้งครรภ์แฝด มีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าลูกดิ้นได้เร็วและบ่อยครั้งกว่าการตั้งครรภ์ปกติ เพราะในครรภ์มีทารกอยู่มากกว่าหนึ่งคน เมื่อลูกขยับตัว คุณแม่จึงรู้สึกว่าลูกดิ้นแรงกว่าปกตินั่นเอง แต่อาการที่มีความรู้สึกว่าลูกดิ้นเร็วกว่าครรภ์ปกติ ก็สามารถพบได้ในคุณแม่ท้องที่สองเป็นต้นไปได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์แฝดหรือครรภ์ปกติ
4.อาการอ่อนล้า
ในช่วงเดือนแรก ๆ คุณแม่อาจมีความรู้สึกง่วงนอนและอ่อนล้ามากขึ้น เนื่องจากร่างกายจะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อดูแลทารกในครรภ์ที่มีมากกว่า 1 คน และถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่เคยมีลูกมาก่อน ความเหนื่อยนี้ก็จะเพิ่มขึ้นในพริบตา แต่มีความเป็นไปได้ว่าความอ่อนล้านี้จะเกิดมาจากปัจจัยอื่น เช่น การทำงาน ความเครียด อาหารการกิน เป็นต้น แต่อาการอ่อนล้ามากกว่าปกตินี้ ก็เป็นหนึ่งในอาการที่บ่งบอกได้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์แฝด
5.ผลตรวจเลือด
การตรวจเลือดหรือปัสสาวะของคุณแม่ หากพบว่า มีระดับฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ฮอร์โมนตั้งครรภ์สูงกว่าปกติ แพทย์จะสันนิษฐานว่าคุณแม่อาจตั้งครรภ์แฝด สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝด ระดับฮอร์โมนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับครรภ์ปกติ หลังจากตกไข่ ฮอร์โมน hCG ของครรภ์ปกติจะอยู่ที่ 70 mIU แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แฝดจะอยู่ที่ 200 mIU
ที่มารูปภาพ : https://www.anmum.com/th/th/pregnancy/
6.ฟังเสียงหัวใจของลูก
หากคุณแม่ได้ลูกแฝด การใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจเด็กจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นมากกว่า 1 เสียง แต่วิธีนี้อาจไม่แม่นยำมากนัก เพราะเสียงที่ 2 ที่เราได้ยินอาจเป็นเสียง Background หรืออาจเป็นเสียงหัวใจของคุณแม่เองก็ได้
7.Ultrasound
ไม่ว่าคุณแม่จะมีอาการที่เข้าข่ายตั้งครรภ์แฝดแค่ไหนก็ตาม การตรวจอัลตราซาวนด์เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด การตรวจวิธีนี้จะทำให้คุณแม่เห็นได้อย่างชัดเจน และถูกต้องที่สุด ซึ่งคุณแม่บางคนอาจรู้ตัวว่าตั้งครรภ์แฝดประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ หลังจากมีการฝากครรภ์และอัลตราซาวนด์
อายุครรภ์ที่สามารถตรวจอัลตราซาวนด์ สำหรับการดูลูกแฝดได้ คือ ช่วงไตรมาสแรก เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากในการพิจารณาประเภทของแฝด เพราะเป็นช่วงที่ทารกยังมีขนาดเล็ก ทำให้มีที่ว่างพอในการตรวจ ซึ่งการแยกประเภทของแฝด มีความสำคัญในการวางแผนการดูแลครรภ์ เพราะแฝดบางประเภทอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
เมื่อคุณแม่รู้ตัวแล้วว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ควรรีบไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการปกป้องลูกน้อยในครรภ์ และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ที่สำคัญคือ คุณแม่จะได้รับคำปรึกษา หรือคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในเรื่องการดูแลตัวเอง และดูแลครรภ์อย่างถูกต้อง
