ทำอย่างไรเมื่อลูกเป็น “เด็กติดเกม” ในยุคที่การห้ามไม่ใช่ทางออก
คุณพ่อคุณแม่อย่านิ่งนอนใจคิดว่าการที่เด็กติดเกม เป็นเรื่องธรรมดาของลูก เล่น ๆ ไป พอเบื่อเดี๋ยวก็เลิกเล่นเอง เพราะ ทางองค์การอนามัยโลกได้จัดให้ การติดเกม (Gaming disorder) เป็นโรคชนิดหนึ่งที่จำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษาเหมือนกับโรคอื่น ๆ เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการด้านสมอง รวมถึงส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กอีกด้วย
เมื่อรู้ว่าลูกเป็นเด็กติดเกม การห้ามไปเลยตรง ๆ อาจไม่ใช่ทางออกที่เวิร์กเสมอไป โดยเฉพาะกับเด็ก Gen Alpha ที่มีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว ทำความเข้าใจกับเด็ก Gen นี้ให้มากขึ้นได้ที่นี่ เข้าใจและรับมือให้ถูกวิธีกับเด็ก Gen Alpha ส่วนวิธีรับมือกับเด็กติดเกม คุณพ่อคุณแม่มาทำตามคำแนะนำทั้ง 4 ข้อของเราได้เลย
เมื่อลูกเป็น “เด็กติดเกม”
นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ ควร หรือ ไม่ควรทำ
1. เลือกเกมที่เหมาะกับวัยให้ลูกเล่น มากกว่า ห้ามไม่ให้เล่น
เพราะการห้ามไม่ให้เด็กติดเกม ก็คือห้ามไม่ให้เล่นเกม ซึ่งเป็นเรื่องยากในยุคปัจจุบันที่ทุกสิ่งขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยี ทางที่จะเลี้ยงลูกให้ทันโลกก็ต้องยอมให้เขาเล่นเกมบ้าง แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเลือกเกมให้เหมาะกับวัยของลูก เข้าไปอ่านได้ที่ เลือกเกมมือถืออย่างไร ให้เหมาะสมกับเด็กวัย 6-12 ปี
กรณีที่คุณพ่อคุณแม่ต้องห้ามอย่างจริงจัง ก็ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่ามีเหตุผลอะไรถึงห้ามเล่น หากลูกยืนยันว่าอยากเล่นจริง ๆ ให้หันมาใช้วิธีเล่นเป็นเพื่อนลูก แล้วค่อย ๆ สอนหรือให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดแทน
2. ให้ลูกทำการบ้านก่อน ถึงจะ ให้เล่นเกม
สำหรับเด็กติดเกมแล้ว เขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เล่นเกม ให้คุณพ่อคุณแม่หันมาใช้ประโยชน์ข้อนี้ด้วยการยื่นข้อเสนอ ทำข้อตกลงกับลูกก่อนที่จะให้เล่นเกม เช่น ทำการบ้านให้เสร็จ หรืออาบน้ำ ทานข้าวก่อน แล้วถึงจะให้เล่นเกม แบบนี้เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แถมลูกยังอยู่ในสายตาของเราอีกด้วย
3. ให้รางวัลกับลูกเมื่อ ทำตาม ข้อตกลงได้
เป็นการยืนยันว่าลูกจะได้รับความรักอย่างเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจก่อนว่าเด็กติดเกม ติดก็คือติด จะหวังให้เขาเลิกภายในไม่กี่ชั่วโมงมันก็คงเป็นไปไม่ได้ เรามาค่อยเป็นค่อยไป ให้ลูกเล่มเกมโดยยังอยู่ในสายตาของเราดีกว่าไปเล่นที่ไหนก็ไม่รู้ หลังจากที่เรายื่นข้อตกลงไปแล้วว่าถ้าทำสิ่งนี้ก่อนแล้วจะได้เล่นเกม ลองให้รางวัลถ้าลูกทำได้ เป็นการแสดงออกให้ลูกรู้ว่าเราใส่ใจเขาเสมอ
4. ชวนทำกิจกรรมอื่น แทน การเล่นเกมบ้าง
คุณพ่อคุณแม่ลองชวนให้ลูกหันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นดูบ้าง อาจเริ่มจากความสนใจของลูกเป็นหลัก เช่น ถ้าลูกชอบเล่นเกมแนวจำลองชีวิต (Simulation) ก็ลองชวนเขาออกไปตั้งแคมป์ข้างนอกดู จำลองการใช้ชีวิตกับธรรมชาติ ฝึกทักษะช่วยเหลือตัวเอง ให้ลูกได้กล้าคิด ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองบ้าง บางทีเกมที่เล่นก็อาจมีส่วนทำให้ลูกกล้าที่จะลงมือทำของจริงได้มากกว่าแค่พ่อแม่พูดสอน ถือเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวไปอีกแบบ
สำหรับพ่อแม่คนไหนที่กำลังมองมากิจกรรมครอบครัวอยู่ ลองเลือกได้จากที่นี่
6 เกมฝึกทักษะ DIY สำหรับเด็ก ทำง่าย ลูกพัฒนาไว หรือ 7 กิจกรรมครอบครัว ปิดเทอมนานไม่น่าเบื่อ อยู่บ้านก็สนุกได้
การที่ลูกเป็นเด็กติดเกมอาจไม่ได้ส่งผลเสียไปซะทีเดียว หากเล่นอย่างพอดี ก็ถือเป็นการคลายเครียดที่มีประสิทธิภาพเลยล่ะ แต่ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่เองก็ควรเป็นต้นแบบในการหลีกเลี่ยงหน้าจอมือถือเวลาสร้างสัมพันธ์กับลูก เพื่อให้ลูกเห็นว่าเราทำได้ เขาก็ทำได้เหมือนกัน