ของใช้สำหรับเด็กแบบไหน
ที่พ่อแม่มักเลือกให้ลูกผิด
การเลือกซื้อของใช้สำหรับเด็กเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนมักให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะอยากให้ลูกได้ใช้ของที่ปลอดภัย ซึ่งของใช้สำหรับเด็กบางชนิดเราก็คิดว่าดีต่อลูกแล้ว แต่ความเป็นจริงสุขภาพของเด็กอาจจะต้องละเอียดกว่านั้น เพราะของใช้บางอย่างสำหรับเด็กอาจมีสารเคมีที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่าอันตรายต่อลูกของเราไหม ง่ายต่อการใช้งานหรือเปล่า ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องดูใหม่ ซึ่งของใช้ที่เรานำมาให้ดูในวันนี้คือสิ่งที่ต้องใส่ใจในการเลือกให้มากกว่าเดิม มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
1. ทิชชูเปียก
ทิชชูเปียกเป็นของใช้สำหรับเด็กที่พ่อแม่ควรใส่ใจอย่างมาก เนื่องจากสมัยนี้ใครก็นิยมใช้ทิชชูเปียก ทำให้มีการผลิตออกมาหลายยี่ห้อ ซึ่งตอนนี้กรมวิทยาศาสตร์ตรวจพบว่าทิชชูเปียกบางยี่ห้อไม่ได้มาตรฐาน เพราะมีเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ รา เมื่อใช้แล้วอาจเสี่ยงต่อการแพ้และติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ดังนั้น ควรเลือกทิชชูเปียกที่มีคุณภาพ อ่อนโยนต่อผิวเด็ก ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารพาราเบน โดยสังเกตจากฉลากบนบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ไม่ควรนำทิชชูเปียกมาเช็ดหน้าหรือปากให้ลูก เพราะสารบางชนิดอาจเข้าตาและเข้าปากได้
แนะนำยี่ห้อทิชชูเปียก : Baby Moby, Pureen, D-nee Pure
2. ขวดนม
ของใช้สำหรับเด็กอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรละเลยนั่นก็คือขวดนม มีตั้งแต่ราคาถูกมากถึงแพงมาก แต่การเลือกซื้อไม่ควรยึดที่ราคาเป็นหลัก ต้องดูว่าขวดนมนั้นปลอดภัยสำหรับลูกของเราหรือไม่ โดยสังเกตจากหน้ากล่องบรรจุภัณฑ์ที่ระบุว่า BPA Free หรือไม่ก็ดูที่วัสดุที่ใช้ผลิต ถ้าเป็น polypropylene (PP), polyethersulfone (PES), polyphenylsulfone (PPSU) ถือว่าปลอดภัย และหลีกเลี่ยงพลาสติกที่มีสัญลักษณ์รีไซเคิลหมายเลข 3 (PVC) หรือ 7 (Other) เนื่องจากสาร BPA ในพลาสติกประเภทนี้สามารถปนเปื้อนออกมาได้ ถ้าสัมผัสกับความร้อน
แนะนำยี่ห้อขวดนม : Pigeon, Philips Avent, Pureen
3. จุกนม
จุกนมก็เป็นอีกหนึ่งของใช้สำหรับเด็กที่ควรเลือกให้ดีเช่นเดียวกัน คุณแม่ควรเลือกจุกนมที่ผลิตจากซิลิโคน เพราะไม่มีกลิ่นยางและสามารถทนความร้อนได้สูง ไม่ควรเลือกที่ผลิตจากยางสังเคราะห์ ทั้งนี้ รูจุกนมแต่ละประเภทต้องเหมาะกับเด็กทารกแต่ละช่วงวัย
ช่วง 1-3 เดือน คุณแม่ควรใช้จุกนมไซซ์ S – SS ที่เป็นรูกลม เมื่อชงนมปิดฝาแล้วให้ลองคว่ำขวด ถ้าน้ำนมค่อย ๆ หยดถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าไหลออกมาเยอะเกินไปอาจจะทำให้สำลัก ในทางตรงกันข้าม หากรูจุกนมเล็กมาก ๆ เด็กอาจจะต้องใช้แรงในการดูดมาก ทำให้เหนื่อยได้ เพราะฉะนั้น เลือกให้พอดีกับแรงดูดของลูกจะดีกว่า
ช่วง 3-6 เดือน เด็กจะต้องการน้ำนมมากขึ้น ไซซ์จุกนมที่เหมาะสมควรเป็นไซซ์ M และเป็นรูสามแฉก จะทำให้น้ำนมไหลออกเมื่อลูกดูดเท่านั้น ไม่ต้องกลัวสำลัก
ช่วง 6 เดือนขึ้นไป ไซซ์จุกนมควรเป็นไซซ์ L ขึ้นไป ควรใช้รูจุกนม 3-4 แฉก หรือกากบาท เพื่อให้น้ำนมไหลเยอะมากขึ้น
แนะนำยี่ห้อจุกนม : Pigeon, Philips Avent, Pureen
4. แพมเพิร์ส
แพมเพิร์สเป็นของใช้สำหรับเด็กที่จำเป็นมาก เนื่องจากเด็กยังไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ คุณแม่อาจจะต้องใส่ใจในการเลือกแพมเพิร์สสักหน่อย ควรเช็กให้ดี ๆ ว่าลูกของเราแพ้หรือเปล่า หากเป็นแพมเพิร์สคุณภาพดี ผิวสัมผัสจะไม่เสียดสีจนก่อให้เกิดการระคายเคือง ที่สำคัญต้องระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ ต้องมั่นใจว่าปัสสาวะและอุจจาระจะไม่ซึมเลอะออกมาด้านนอก และควรมีแพมเพิร์สไว้สองแบบ ซึ่งในช่วงแรก ๆ ควรใช้แพมเพิร์สแบบที่มีเทปกาว เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยน
ส่วนแบบสวมอาจจะใส่ให้เด็กที่เริ่มคลานหรือเดิน ที่สำคัญขนาดไซซ์ต้องพอดี ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป เพราะฉะนั้น ไม่ควรซื้อแพมเพิสตุนไว้เยอะ ๆ เพราะเด็กแรกเกิดโตไว อาจทำให้ใส่ไซซ์เดิมไม่ได้ รวมถึงต้องทดลองใส่ให้ลูกก่อนว่ามีอาการแพ้หรือไม่ เหมือนที่คุณแม่ ๆ ต้องลองครีมที่ใต้ท้องแขนก่อนที่จะทาจริงที่บริเวณหน้า
แนะนำยี่ห้อแพมเพิร์ส : Goon, Babylove, Mamy Poko
5. ฟองน้ำอาบน้ำเด็ก
ของใช้สำหรับเด็กที่คุณแม่ต้องเลือกให้ดี ๆ อีกชิ้นหนึ่งก็คือฟองน้ำอาบน้ำเด็ก เพราะผิวของเด็กนั้นบอบบางมาก ควรใช้ฟองน้ำธรรมชาติ 100% เพราะจะอุ้มน้ำได้ดีและนุ่มกว่าฟองน้ำทั่ว ๆ ไป หากเป็นฟองน้ำสังเคราะห์อาจจะฝืดผิว ทำให้ระคายเคืองได้ และอาจหลุดลุ่ยออกมาเป็นขุย ทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อย
แนะนำยี่ห้อฟองน้ำธรรมชาติ : Bolina, Camera, Pureen
6. ที่ดูดน้ำมูก
ของใช้สำหรับเด็กชิ้นสุดท้ายที่ไม่ควรประมาทในการเลือกเลยก็คือที่ดูดน้ำมูก ซึ่งสมัยก่อนนิยมใช้ลูกยางแดง แต่เกิดปัญหาในการล้างทำความสะอาด เพราะต้องบีบให้น้ำเข้า – ออก จนกว่าน้ำมูกจะออกจากลูกยางจนหมด แถมต้องนำมาล้างในน้ำอุ่นอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น หากลูกดิ้นตอนบีบก็อาจจะทำให้ปลายลูกยางเข้าไปในโพรงจมูกลึกจนบาดเจ็บได้
ดังนั้น ควรเลือกที่ดูดน้ำมูกที่เป็นสายยางจะดีกว่า เพราะสามารถควบคุมแรงดูดได้ด้วยตัวเองโดยที่น้ำมูกจะไหลลงไปที่ขวด ซึ่งไม่มีทางที่จะไหลย้อนกลับ และยังง่ายต่อการล้างทำความสะอาด แถมยังเช็กได้อีกว่าสีของน้ำมูกเป็นยังไง จะได้รู้สุขภาพตอนนั้นของลูกด้วย
แนะนำยี่ห้อที่ดูดน้ำมูก : Camera, Pigeon
การใส่ใจในการเลือกของใช้สำหรับเด็กเป็นสิ่งที่พ่อแม่ให้ความสำคัญและกังวลว่าลูกจะไม่ปลอดภัย แต่ถ้าเลือกอย่างถูกวิธีแล้ว ก็หมดห่วงกับปัญหาเหล่านี้ได้เลย ลองนำวิธีที่บอกไปเลือกของใช้ให้กับลูก ๆ ดูนะคะ