Search
Close this search box.
คำพูดที่ไม่ควรใช้กับแม่ตั้งครรภ์

พูดผิดพูดใหม่นะคะคุณพ่อ!
ส่องคำพูดที่พ่อไม่ควรใช้กับแม่ตั้งครรภ์

คุณพ่อมือใหม่หลายคนคงเคยลิ้มรสอารมณ์ขาขึ้นขาลงของคุณแม่ เมื่อครั้งวันนั้นของเดือนมาเยือนกันบ้างแล้วใช่ไหม ขอบอกเลยว่าอารมณ์หลายขั้วช่วงนั้น เทียบไม่ได้เลยกับสภาวะทางอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ เวลานี้จึงเป็นช่วงที่คุณพ่อต้องใจเย็น ใจกว้าง และทำความเข้าใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณแม่ให้มากๆ ที่สำคัญอย่าเผลอพูดอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายต้องขุ่นข้องหมองใจเป็นอันขาด เพราะบทสนทนาไม่รื่นหูอาจไปเปิดก๊อกน้ำตา หรือจุดไฟฉุนเฉียวได้แบบไม่ทันตั้งตัว ตามไปดูกันดีกว่าว่า ‘คำพูดที่พ่อไม่ควรใช้กับแม่ตั้งครรภ์’ มีอะไรกันบ้าง

เรื่องอ่อนไหวที่ห้ามทักคุณแม่ตั้งครรภ์ เตือนแล้วนะ!

คำพูดที่ไม่ควรใช้กับแม่ตั้งครรภ์

“ตั้งแต่ท้อง คุณดูอ้วนขึ้นมาก”

ผู้หญิงตั้งครรภ์จะรู้สึกนอยด์กับรูปร่างที่เปลี่ยนไปของตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งคนใกล้ตัวอย่างสามี ซึ่งเป็นคนที่เธอคิดว่ารับในตัวตนเธอได้ทุกอย่าง ทักเรื่องนี้ขึ้น ยิ่งทำให้ว่าที่คุณแม่รู้สึกไม่พอใจ น้อยใจ และงอนเอาได้ง่ายๆ อาการเหล่านี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่มั่นใจในตัวเอง ทำให้คุณแม่รู้สึกอายที่จะอวดรูปร่าง เพราะกลัวสายตาคนรอบข้าง และคิดว่าสามีคงไม่ชอบ ยิ่งไปกว่านั้นอาจลามไปถึงการทำให้คุณแม่สูญเสียความเคารพตัวเองได้เลยทีเดียว 

ทางที่ดีหากคุณพ่อเห็นคุณแม่เริ่มมีรูปร่างโตขึ้น อันดับแรกต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ถ้าคุณพ่อกังวลเรื่องสุขภาพ ให้ลองหาเทคนิคชวนคุณแม่ไปออกกำลังกาย แต่ต้องเลือกประเภทกีฬาที่เหมาะสมกับคนท้องเท่านั้น หากเป็นกีฬาที่พ่อสามารถมีส่วนร่วมได้จะดีมาก คุณแม่จะได้รู้สึกอุ่นใจว่ามีคนอยู่เคียงข้างเสมอ เช่น ชวนกันไปว่ายน้ำ ชวนกันไปเดินที่สวนสาธารณะ หรืออาจจะแนะนำเทรนด์การออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ เพื่อเพิ่มแรงกระตุ้นให้คุณภรรยาอยากดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยคุณพ่ออาจให้การสนับสนุนอยู่ห่างๆ เช่น จัดเตรียมอุปกรณ์ให้ หรือคอยไปรับไปส่งทุกครั้ง ฯลฯ

คำพูดที่ไม่ควรใช้กับแม่ตั้งครรภ์

“อยากกินอีกแล้วหรือ คุณเพิ่งกินไปเองนะ”

สำหรับคนท้อง ต้องยอมรับเลยว่ามันมีบางอารมณ์ที่รู้สึกว่า ‘อยากกิน ต้องได้กิน’ อยู่นะ และบางครั้งก็เปรี้ยวปากอยากกินของแปลกที่ไม่เคยคิดอยากกินมาก่อนด้วย และแน่นอนว่าพออยากแล้วไม่ได้กิน อารมณ์หงุดหงิดก็ตามมาทันที ยิ่งถ้าได้ยินสามีถามแทงใจดำอีก ก็ยิ่งพาลให้คิดไปได้ว่ากำลังถูกเหน็บแนมเรื่องกินจนพุงกาง และน้อยใจที่สามีไม่ตามใจ เอาเถอะ จะคิดว่าคุณแม่ไม่มีเหตุหรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าอยากแล้วไม่ได้กินมีเคืองแน่นอนนะคุณพ่อ 

เรื่องนี้ก็ต้องยอมรับว่าคุณพ่อคงต้องยอมตามใจคุณแม่ไปตามระเบียบ แต่ถ้าหากว่าสุดวิสัยจริงๆ เช่น ไม่สามารถหาอาหารที่แม่ต้องการได้ ณ เวลานั้นๆ คุณพ่ออาจลองยื่นข้อเสนอแบบเจอกันครึ่งทาง โดยรับปากว่าจะพาไปกินในวันพรุ่งนี้แทน ไม่ปล่อยให้อยากกินเฉยๆ แน่นอน แต่ข้อควรระวังคือ รับปากแล้วต้องทำตามให้ได้นะ ไม่งั้นมีเคืองอีกรอบแน่ ที่สำคัญห้ามใช้คำพูดที่ส่อให้คุณแม่รู้สึกว่า ความอยากของตัวเองเป็นภาระเป็นอันขาด 

คำพูดที่ไม่ควรใช้กับแม่ตั้งครรภ์

“คุณจะเหนื่อยอะไรนักหนา ไม่เห็นคุณทำอะไรเลย”

เมื่อตั้งครรภ์คุณแม่ต้องเผชิญภาวะความเปลี่ยนแปลงของร่างกายมากมาย เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนทำให้อ่อนเพลีย, ระบบเผลาผลาญทำงานไม่เต็มที่ทำให้ง่วงซึม, ร่างกายขาดธาตุเหล็กทำให้โลหิตจาง, มีออกซิเจนในเลือดน้อย รวมถึงมักนอนไม่ค่อยหลับในตอนกลางคืน พลอยทำให้เพลียไปทั้งวัน ฯลฯ ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้ผู้หญิงที่เคยสตรอง ดูอิดโรยชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งนั่นคงพออธิบายได้ว่าทำไมคนท้องจึงดูเหนื่อยง่ายนัก

เทคนิคที่พอจะทำให้คุณพ่อเข้าใจความเหนื่อยล้าของคุณแม่มากขึ้น คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเปิดใจ และทำความเข้าใจกับภาวะความเปลี่ยนแปลง หากอยากช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวขึ้น อาจพาไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติ พาคุณแม่ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ หรือจะช่วยนวดผ่อนคลายให้คุณแม่บ้างก็ได้ นอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันแล้ว ยังเป็นการเติมกำลังใจให้คุณแม่ได้เป็นอย่างดี

คำพูดที่ไม่ควรใช้กับแม่ตั้งครรภ์

“คุณอย่ามางี่เง่าได้ไหม โน่นก็ไม่ นี่ก็ไม่”

ประโยคนี้สุดแสนจะสะเทือนใจ จนทำให้แม่มีน้ำตาได้เลยล่ะ ก็แม่อยากให้พ่อเอาใจและช่วย
ดูแลทุกๆ ด้าน ถ้าโดนย้อนกลับแบบนี้มันทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกเหมือนเป็นภาระยังไงอย่างงั้น
ที่สำคัญการอุ้มท้องยังทำให้ระดับฮอร์โมนของคุณแม่แปรปรวน บางวันจึงรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ไหนจะต้องแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากขนาดหน้าท้องที่โตขึ้นทุกวันๆ เดินนานก็ไม่ได้ นั่งนานก็กดทับกล้ามเนื้อจนปวดเมื่อย จึงไม่แปลกเลยที่คุณแม่จะหงุดหงิดง่าย และระบายอารมณ์หรือกิริยาท่าทางซึ่งทำให้คุณพ่อไม่สบายใจออกมา

หากคุณพ่อหากอยากรับมือกับความแปรปรวนทางอารมณ์ ต้องคิดตั้งแต่ต้นเลยว่าสิ่งที่แสดงออกมาในช่วงนี้ เป็นเพราะฮอร์โมนและสารต่างๆ ที่พลุกพล่านอยู่ในร่างกายคุณแม่ โดยเนื้อแท้คุณแม่เคยน่ารักและมีวุฒิภาวะอย่างไร ให้นึกถึงตรงนี้ไว้เสมอ แล้วคุณพ่อจะผ่านโมเมนต์กดดันนี้ไปได้ โดยไม่รู้สึกอยากตอบกลับพฤติกรรมไม่น่ารักของคุณแม่ด้วยคำพูดรุนแรงเลย

คำพูดที่ไม่ควรใช้กับแม่ตั้งครรภ์

“จะร้องไห้ทำไมบ่อยๆ เป็นอะไรมากหรือ”

การตั้งครรภ์เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งไปมาก บางคนเคยคล่องแคล่ว ออกไปตะลุยทำงานถึงไหนถึงกัน แต่จู่ๆ ต้องมานั่งเป็นแม่บ้านเหงาๆ บางคนยังมีความกังวลสารพัด ทั้งสุขภาพลูก สุขภาพตัวเอง แถมยังกังวลว่าสามีจะนอกลู่นอกทาง ที่สำคัญกลัวว่าจะทำหน้าที่แม่ได้ไม่เต็มที่ อาการแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ท้องแรก หากความกังวลใจไม่ได้รับการระบาย คุณแม่จะยิ่งรู้สึกอึดอัดเหมือนกำลังถูกกดดัน 

แทนที่จะถามกลับเหมือนรำคาญที่คุณแม่ร้องไห้บ่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นการถามสารทุกข์สุกดิบในแต่ละวันของคุณแม่ดีกว่า นั่งเป็นผู้ฟังที่ดีเพื่อให้คุณแม่ระบายความอัดอั้นในใจ และเอนจอยกับหลายๆ โมเมนต์ของคุณแม่บ้าง ไม่ให้เธอรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง เท่านี้คุณแม่ก็รู้สึกมี
กำลังใจขึ้นเยอะมากๆ แล้ว

บทบาทคุณพ่อมือใหม่ดูเหมือนต้องใช้วาทศิลป์ และความเข้าใจเป็นอย่างมากเลยใช่ไหม หากคุณพ่อกำลังรู้สึกว่า มันช่างเป็นบทบาทที่ต้องใช้ความพยายามเหลือเกิน ลองปรับมุมมองดูก่อน เพื่อความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ราบรื่น

SHARE

RELATED POSTS

“ว้ายตายแล้ว! ทำไมลูกฉันพูดคำนี้ออกมา ไม่เคยสอนเลยนะ” จัดการยังไงเมื่อลูกพูดคำหยาบให้ได้ยิน…
เด็กฟันผุ ปัญหาสุดคลาสสิกที่พ่อแม่มักไม่ให้ความสำคัญ ได้เวลาหยุดพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ลูกฟันผุ ด้วยการปรับเปลี่ยนของใช้และพฤติกรรมของน้องกัน…
วิธีชมลูกแบบไหนที่พ่อแม่ควรหรือไม่ควรทำกันนะ คำชมที่ใช้อยู่ตอนนี้ดีจริงหรือเปล่า ถ้าไม่แน่ใจ มาดูกันใหม่…
พบกับวิธีรับมือลูกอาละวาด ที่พ่อแม่ไม่ต้องรู้สึกผิดเมื่อใช้อารมณ์จัดการกับลูก แถมยังฝึกให้ลูกควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เร็วขึ้น ไม่ต้องดุก็หยุดร้องได้…
คำพูดที่เราคิดว่าดีต่อลูกอาจจะไม่ได้ดีเสมอไป แม้ว่าคำนั้นจะน้ำเสียงอ่อนโยนแค่ไหน แต่ก็เป็นคำพูดที่ไม่ควรพูดกับลูก เพราะจะทำให้เขาสูญเสียการนับถือตนเองและกลัวจนไม่กล้าแสดงออก…