เลือกเกมมือถืออย่างไร
ให้เหมาะสมกับเด็กวัย 6-12 ปี
การเล่น ‘เกมมือถือ’ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่เด็กในช่วงวัย 6-12 ปี ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และในปัจจุบันเกิดกระแสที่เกี่ยวข้องกับเกมมือถือขึ้นมาอย่างล้นหลาม เช่น กระแสการแข่งขันอีสปอร์ต, กระแสการเล่นเกม ROV หรือ PUBG Mobile ทำให้เด็กให้ความสนใจกับการเล่นเกมเพิ่มมากขึ้น แต่มีข้อควรระวังคือ เกมที่ได้รับความนิยมบางประเภทไม่เหมาะสมกับเด็กในช่วงวัยนี้เท่าไรนัก พ่อแม่จึงควรทำความเข้าใจรูปแบบของเกม และเลือกเกมมือถือให้ลูกไปพร้อมๆ กับการเลี้ยงดู
แต่ถ้าเจ้าหนูติดเกมมือถือหนักเกินไป คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้จะแก้ยังไง เข้าไปอ่านวิธีรับมือที่นี่ ลูกติดโทรศัพท์ทำยังไง? เข้าใจและรับมือให้ถูกวิธีกับเด็ก “Gen Alpha”
ศึกษาระบบเรตติ้งของเกม
ผู้จัดจำหน่ายหรือผู้ให้บริการเกมทุกชนิดจะมีระบบเรตติ้ง และแจ้งสิ่งที่ไม่เหมาะสมไว้เสมอ เพื่อเตือนว่าเกมนี้เหมาะสำหรับคนที่มีอายุ 7-12 ปี, เกมนี้มีความรุนแรงทางเพศ, เกมนี้มีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น ซึ่งระบบเรตติ้งเหล่านี้จะมีมาตรฐานจากหน่วยงาน International Age Rating Coalition (IARC) รองรับ หรือในบางประเทศก็จะมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่มักให้รายละเอียดว่าเกมใดเหมาะกับใคร เช่น Arena of Valor หรือ ROV ที่มีเรตเหมาะกับผู้เล่นอายุ 12 ปีขึ้นไป หรือ PUBG Mobile ที่มีเรตเหมาะกับผู้เล่นอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีความรุนแรงด้วย เรตติ้งเหล่านี้จะช่วยให้พ่อแม่คัดเลือกเกมต่างๆ ให้เหมาะสมกับลูกได้ง่ายขึ้น
เบื้องต้นพ่อแม่สามารถตรวจสอบเรตติ้งเกมมือถือง่ายๆ ได้ในรายละเอียดของแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งอธิบายไว้ที่หน้าดาวน์โหลด หลังจากที่เรียนรู้ระบบเรตติ้งแล้ว พ่อแม่ก็ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าเพราะเหตุใดถึงให้เล่นหรือห้ามเล่น หากลูกยืนยันว่าอยากเล่นจริงๆ พ่อแม่ควรใช้วิธีดูแลลูกและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดแทน
เลือกเกมที่ส่งเสริมพัฒนาการของลูก
เกมในปัจจุบันมีหลายแนว แต่เกมที่เหมาะสมสำหรับเด็กและส่งเสริมพัฒนาการที่ดีของลูกนั้นมีอยู่ไม่กี่ประเภท ที่ได้รับการพูดถึงมากคือ ‘เกมแนวจำลองชีวิต (Simulation)’ และ ‘เกมแนวไขปริศนา (Puzzle)’ ตัวอย่างเกมที่จัดอยู่ในแนวนี้และส่งเสริมพัฒนาการของลูกในช่วงวัย 6-12 ปีได้ดี มักหนีไม่พ้น เกม Minecraft เกมที่ฝึกให้เด็กเรียนรู้ที่จะนำสิ่งของต่างๆ รอบตัวมาสร้างอาณาจักรหรือพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งมีการเล่นที่อิสระและยังมีระบบออนไลน์ไว้ให้คุยกับเพื่อนได้ โดยนอกจากเป็นเกมส่งเสริมจินตนาการของลูกได้ดีที่สุดเกมหนึ่ง ยังเป็นมิตรสำหรับเด็กด้วยเพราะไม่มีภาพของความรุนแรง เกมนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยเองก็มีการเล่นเกมนี้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเล่นได้ทั้งในมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ แต่เกมนี้จะมีค่าใช้จ่ายด้วย หากไม่อยากเสียเงินก็จะมีอีกเกมที่จัดอยู่ในประเภทนี้ ชื่อ เกม Roblex พ่อแม่สามารถเลือกให้ลูกเล่นได้เช่นกัน
เกมแนวจำลองชีวิตอีกรูปแบบที่น่าสนใจก็คือ เกม Toca Kitchen เป็นเกมที่อิงกับการใช้ชีวิตประจำวันโดยการให้เด็กเรียนรู้เรื่องการกินจากตัวละครของเกม เช่น กินเนื้อสัตว์เยอะหรือกินอาหารที่ทำยังไม่สุก สีหน้าของตัวละครจะรู้สึกไม่ดี, กินผักสีหน้าของตัวละครก็จะยิ้มแย้ม ซึ่งเกมลักษณะนี้สามารถช่วยสอนเรื่องในชีวิตประจำวันง่ายๆ และยังสามารถสร้างทัศนคติที่ดีให้กับเด็กได้อีกด้วย
เกมสำหรับเด็กแนวไขปริศนา (Puzzle) อย่างเกม Where’s My Water? เป็นเกมที่จะต้องช่วยจระเข้น้อยอาบน้ำ โดยเด็กมีหน้าที่แก้ปริศนาต่าง ๆ เพื่อให้น้ำไหลลงไปในอ่างให้จระเข้อาบ ภายในแต่ละด่านยังมีไอเท็มพิเศษ เช่น เป็ดน้อยสีเหลือง และอุปกรณ์อาบน้ำซ่อนอยู่ด้วย
อีกหนึ่งเกมสำหรับเด็กแนวไขปริศนา (Puzzle) อย่าง Chigiri: Paper Puzzle เป็นเกมกระดาษญี่ปุ่นที่เด็ก ๆ จะต้องต่อภาพจากชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบกันให้เป็นรูปร่าง เด็กจะได้ใช้จินตนาการในการแก้ไขปัญหา เล่นได้สนุก เพลิน ๆ เลย
‘MOBA For Kids’
แนวเกมแบบผู้ใหญ่ ที่มาในเวอร์ชันเด็ก
อีกแนวเกมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน คือ ‘เกมแนว MOBA (Multiplayer online battle arena)’ ลักษณะการเล่นจะแบ่งคนออกเป็นสองฝั่ง แล้วทำภารกิจเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม ตัวอย่างเกมที่ได้รับความนิยมได้แก่ ROV และ Mobile Legends แต่เกมเหล่านี้ไม่ได้ผลิตมาไว้สำหรับเด็ก เพราะมีองค์ประกอบของความรุนแรง เลือด และสังคมของการเล่นเกมที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับเด็กเท่าไรนัก ผู้ผลิตอย่างค่าย Supercell จึงออกแบบเกมแนวนี้ที่เหมาะสำหรับเด็กขึ้นมา อย่าง เกม Brawl Stars ที่ใช้วิธีการเล่นแบบเดียวกัน แต่เกมแนว MOBA ในเวอร์ชันสำหรับเด็กนั้น มีรายละเอียดที่น่ารักและมีสีสันสดใสกว่า เช่น อาวุธที่ใช้ยิงเป็นปืนลูกกวาด หรือใช้ระเบิดดอกไม้แทนระเบิดจริง ถือเป็นอีกเกมที่มีทิศทางที่น่าสนใจ จนผู้ผลิตเกมหลายรายหันมาสนใจออกแบบเกมลักษณะนี้มากขึ้น พ่อแม่จึงควรติดตามข่าวในวงการเกมด้วย โดยเฉพาะบ้านที่ลูกที่ชอบเล่นเกมเป็นพิเศษ
นอกจากเกมในมือถือแล้ว ลองหาเกมสนุก ๆ แบบอื่นให้ลูกเล่นเสริมพัฒนาการด้วยก็ได้นะ 6 เกมฝึกทักษะ DIY สำหรับเด็ก ทำง่าย ลูกพัฒนาไว
เลือกเกมแล้วก็ต้องจำกัดเวลา
และดูแลใกล้ชิดเสมอ
ไม่เพียงเลือกเกมที่เหมาะกับลูก หากปล่อยให้ลูกเล่นแบบไม่มีวินัยก็อาจทำให้เขาติดเกมได้ พ่อแม่จึงควรวางตารางเวลาให้ลูกเล่นอย่างเหมาะสม และหมั่นชวนลูกพูดคุยเกี่ยวกับเกม และถามถึงเพื่อนที่อยู่ในเกม หากมีใครไม่น่าไว้ใจในเกมก็ควรสอนลูกให้ระมัดระวังตัว แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวให้ลูกด้วย ไม่ก้าวก่ายจนทำให้ลูกไม่ไว้ใจเรา
ส่วนคุณพ่อบ้านไหนมีเวลาว่างเยอะ หากิจกรรมสนุก ๆ ทำร่วมกันกับลูกก็ได้ จะช่วยเติมความรักระหว่างพ่อลูกให้แน่นกว่าเดิม ถ้าคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี คลิกเข้าไปอ่านเลย รวม 5 วิธี ‘พ่อเล่นกับลูก’
สร้างเสริมทั้งความสัมพันธ์และพัฒนาการ
การดูแลและเอาใจใส่กับลูกในเรื่องการเล่นเกมเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในปัจจุบัน เพราะมันส่งผลถึงอารมณ์ ความคิด การใช้ภาษา และการแสดงออกต่างๆ หากพ่อแม่ปล่อยปละละเลยอาจส่งผลเสียได้ในอนาคต รวมถึงการปลูกฝังเรื่องอายุกับความเหมาะสมในการใช้สื่อต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น เกม ภาพยนตร์ หรือละคร หากเราสร้างค่านิยมที่ดีให้กับลูก ลูกก็จะเติบโตไปเป็นคนที่รู้จักกฎเกณฑ์ต่างๆ ของสังคม และเป็นคนที่มีคุณภาพ
