7 ข้อที่ควรเตรียมให้พร้อม
ก่อนพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก
ครอบครัวที่เดินทางเป็นประจำ เวลาขึ้นเครื่องบินมักจะได้พบเจอเหตุการณ์ของครอบครัวอื่นพาลูกที่เป็นเด็กเล็กร่วมเดินทางมาด้วย ซึ่งเวลาที่พาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก เด็ก ๆ มักจะมีอาการงอแง ร้องไห้ และเสียงดัง ทำให้รบกวนผู้ร่วมเดินทางคนอื่นไปด้วย เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่อย่างเรา คงไม่อยากให้ลูกสร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้างแน่นอน ดังนั้น เราควรเตรียมรับมือกับสถานการณ์เมื่อพาเด็กขึ้นเครื่องบิน ด้วยการเตรียมความพร้อม และศึกษาข้อมูลวิธีพาลูกขึ้นเครื่องบินตั้งแต่ก่อนเดินทางจะดีที่สุด
7 ข้อพร้อมรับมือ เมื่อต้องพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก
1.ตรวจสอบอายุของลูกที่นั่งเครื่องบินได้ และเลือกไฟลต์บิน (Flight) ให้ตรงกับเวลาที่ลูกเข้านอน
โดยทั่วไปแล้วทางสายการบินจะอนุญาตให้เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป สามารถเดินทางได้ และเด็กอายุตั้งแต่ 14 วัน ไปจน ยังไม่ถึง 12 ปีบริบูรณ์ ในวันเดินทางต้องมีผู้ใหญ่อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เดินทางไปด้วย
เมื่อพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรกการเลือกไฟลต์บิน (Flight) ให้ตรงกับเวลาที่ลูกเข้านอน สำคัญมาก เพราะเขาจะใช้เวลาบนเครื่องบินไปกับการนอนหลับ ช่วยลดอาการงอแงไปได้เยอะเลยทีเดียว
2.เลือกที่นั่งที่สามารถออกง่าย และใกล้ห้องน้ำ
วิธีพาลูกขึ้นเครื่องบินแบบไม่ให้รบกวนผู้โดยสารคนอื่นมากจนเกินไป คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกที่นั่งที่สามารถออกง่าย ติดริมทางเดิน และใกล้ห้องน้ำ เพราะหากมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม นอกจากจะสะดวกแล้ว ยังสามารถพาลูกไปล้างตัว ทำความสะอาด หรือเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ทันที โดยไม่เป็นการรบกวนผู้ร่วมเดินทางคนอื่นอีกด้วย
3.เตรียมพร้อมรับมือกับความกดอากาศบนเครื่องบิน
เวลาเด็กขึ้นเครื่องบิน เขาจะยังไม่สามารถรับมือกับความกดอากาศที่เกิดขึ้นตอนเครื่องบิน Take off ได้ด้วยตัวเอง จะมีอาการหูอื้อ เจ็บหู คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้โดยสอนให้ลูกหัดฝึกกลืนน้ำลาย ถ้าหากลูกงอแงมาก ๆ หรือเด็กจนไม่สามารถทำได้ ลองเปลี่ยนให้เขาดื่มนม, น้ำเปล่าหรือดูดจุกนมแทนได้
4.ระวังก่อนขึ้นเครื่อง อย่าให้ลูกกินอิ่มจนเกินไป
บนเครื่องบินจะมีความแปรปรวนของอากาศ ความกดอากาศ และความโคลงเคลงเกิดขึ้น เหล่านี้นี่เองที่ทำให้เด็กขึ้นเครื่องบินไม่ชิน หากคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกกินอาหารจนอิ่ม เพื่อหวังจะให้เขานอนหลับได้ดี และไม่งอแงล่ะก็… บอกได้เลยว่าเมื่อพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก อาจทำให้เกิดอาการมึน และอาเจียนออกมาได้ ฉะนั้น ควรระวัง อย่าให้ลูกกินอิ่มจนเกินไปจะดีกว่า
5.เตรียมของใช้ที่จำเป็น เผื่อฉุกเฉิน
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการพาลูกขึ้นเครื่องบิน คือการเตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กให้พร้อม เช่น ผ้าอ้อม เสื้อผ้าสำรอง ขวดนม ทิชชูเปียก รวมถึงของเล่นชิ้นโปรด ของเหล่านี้จะช่วยบรรเทาสถานการณ์ฉุกเฉินที่ลูกงอแงได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ แนะนำให้แยกใส่กระเป๋าอีกหนึ่งใบ เพื่อถือขึ้นเครื่องบินไปด้วย พกไว้ใกล้ ๆ ตัว เพื่อเป็นตัวช่วยในการรับมือไม่ให้เดือดร้อนผู้ร่วมเดินทางคนอื่นเมื่อพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งแรก
6.ตารางเวลากินข้าวของลูก ห้ามปล่อยให้หิวเด็ดขาด
เรื่องกินสำหรับเด็ก ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องพาลูกขึ้นเครื่องบินเป็นเวลานาน ห้ามปล่อยให้หิวเด็ดขาด หากลูกเกิดหิวขึ้นมา งานปวดหัวชิ้นโบว์แดงมาเยือนแน่นอน ลูกจะงอแง ร้องไห้ เสียงดัง โวยวาย มาแบบครบสูตรเลยทีเดียว คุณพ่อคุณแม่ควรจัดเตรียม ทั้งนม อาหาร และขนมให้เพียงพอต่อการเดินทาง สำหรับของเหลวสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ในปริมาณที่กำหนด หรือจะแบ่งนมผงเอาไว้ แล้วค่อยไปขอน้ำร้อนบนเครื่องบินก็ได้
7.บอกผู้เดินทางร่วมไฟลต์ที่ใกล้เคียงไว้ก่อน
คุณพ่อคุณแม่ที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าการพาลูกขึ้นเครื่องบินครั้งนี้ ลูกของเราจะต้องงอแงบนเครื่องอย่างแน่นอน สิ่งที่ควรเตรียมให้พร้อมเมื่อเด็กขึ้นเครื่องบินเลยก็คือ บอกผู้เดินทางร่วมไฟลต์ที่ใกล้เคียงไว้ก่อน แจ้งหรือขอโทษตั้งแต่เนิ่น ๆ และจะดียิ่งกว่าหากมีการเตรียมอุปกรณ์ที่อุดหูไว้สำหรับมอบให้ผู้เดินทางร่วมไฟลต์ที่นั่งใกล้เคียง เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่แล้ว
เมื่อรู้วิธีพาลูกขึ้นเครื่องบินแบบไม่ให้รบกวนผู้ร่วมไฟลต์แบบนี้แล้ว อย่าลืมเตรียมตัวรับมือให้พร้อมก่อนออกเดินทาง เพียงเท่านี้การเดินทางบนเครื่องบินก็จะราบรื่นไปได้ด้วยดีแล้ว แต่สำหรับครอบครัวไหนที่กำลังแพลนอยากพาเจ้าตัวน้อยไปต่างประเทศ สามารถอ่าน คลิก! เตรียมตัวให้พร้อม! ก่อนพาลูกเที่ยวต่างประเทศ ไว้ก่อนได้เลย